– ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงเล็กน้อย หลังค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนลดการลงทุนในตลาดน้ำมันดิบ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในสกุลเงินสหรัฐฯ จะมีราคาสูงขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่น
+ อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงหนุนจากความกังวลต่อสถานการณ์ความตึงเครียดเกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่าน หลังจากมีสัญญาณว่าสหรัฐฯ อาจจะถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ที่ชาติมหาอำนาจทำไว้กับอิหร่าน โดยประธานาธิบดีทรัมป์มีเวลาถึงวันที่ 12 พ.ค. ในการตัดสินใจว่าจะถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์หรือไม่ หากสหรัฐฯ ทำการคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกของอิหร่าน
+ ตลาดมีความกังวลในเรื่องของอุปทานน้ำมันดิบตึงตัว จากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน และจากปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของเวเนซุเอลาปรับตัวลดลงกว่าร้อยละ 40 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
– ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังปริมาณแท่นขุดเจาะปรับตัวเพิ่มขึ้นสี่สัปดาห์ติดต่อกัน โดย Baker Hughes รายงานปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 27 ธ.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5 แท่น มาอยู่ที่ 825 แท่น แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค. 58
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังมีแรงซื้อจากอินโดนีเซีย อย่างไรก็ตาม ตลาดน้ำมันเบนซินมีแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังในประเทศสิงคโปร์ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 8.55 ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ปรับตัวลดลง นอกจากนี้ อุปทานถูกจำกัดจากการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่น ในขณะที่อุปสงค์น้ำมันดีเซลยังอยู่ในระดับคง
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 65-70 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 72-77 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ซึ่งอาจส่งผลกระทบให้อุปทานมันดิบในภูมิภาคตึงตัวขึ้น โดยกลุ่มกบฎในเยเมนเปิดฉากยิงขีปนาวุธโจมตีซาอุดิอาระเบียเมื่อวันที่ 11 เม.ย. ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ตลาดยังวิตกว่าสหรัฐฯ อาจถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่าน และทำการคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่ ซึ่งจะส่งผลให้อิหร่านส่งออกน้ำมันดิบสู่ตลาดโลกในปริมาณที่จำกัด
สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ระบุว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังทั่วโลก ปรับลดลงอย่างมากนับตั้งแต่ช่วงปี 2561 ที่ผ่านมาและมีแนวโน้มปรับลดลงต่ำกว่าระดับค่าเฉลี่ย 5 ปีในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นเหนือระดับต้นทุนเฉลี่ยในการผลิตน้ำมันดิบของผู้ผลิตในสหรัฐฯ
ที่มา : prachachat.net
จำนวนผู้อ่าน: 2189
30 เมษายน 2018