Easy Maintenance
Report Application

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Smart Fix ได้ที่

Application Features

Application ที่ช่วยให้งานซ่อมของคุณง่ายขึ้น รองรับการให้บริการครบทุกหมวดงาน smartfix ไม่ใช่เพียงแค่เครื่องมือช่วยแจ้งซ่อมเท่านั้น แต่เรายังมีทีมช่างและผู้รับเหมาของเราเอง ทั่วประเทศ และทีมเจ้าหน้าที่คอยรับแจ้งซ่อม วิเคราะห์ ตรวจสอบ และแจ้งดำเนินการ อย่างรวดเร็ว และเป็นระบบ

ให้บริการครอบคลุมทุกหมวดงาน

ตู้จ่ายน้ำมันและแก๊ส

แจ้งซ่อมปัญหาสำหรับอุปกรณ์ประเภท ตู้จ่ายน้ำมันและแก๊ส

โครงสร้าง

แจ้งปัญหาเกี่ยวกับงานประเภทโครงสร้าง อาคารคลุมปั้ม อาคารสำนักงาน และ อื่นๆ

ระบบไฟ

แจ้งปัญหาเกี่ยวกับ ไฟฟ้าเมนหลัก ไฟฟ้าอาคารคลุมปั๊ม ระบบไฟตู้จ่าย ระบบไฟป้าย และอื่นๆ

ป้าย

แจ้งปัญหาเกี่ยวกับ ป้ายบอกชนิดน้ำมัน ป้ายทางเข้า - ออก ป้ายโฆษณา และ อื่นๆ

ระบบน้ำ

แจ้งปัญหาเกี่ยวกับระบบน้ำ ระบบประปาอาคารสำนักงาน ระบบประปาห้องน้ำ และอื่นๆ

ท่อและถัง

แจ้งปัญหาเกี่ยวกับระบบท่อและถัง ระบบถัง LPG ระบบท่อแกีส LPG ระบบถังน้ำมัน

งานซ่อมอื่นๆ

แจ้งปัญหาในงานด้านอื่นๆ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยรับเรื่อง ตรวจสอบ และดำเนินการให้อย่างรวดเร็ว

ข่าวประชาสัมพันธ์

กนอ.ตั้งคณะสอบโรงงานปุ๋ยแห่งชาติขนแร่ยิปซัมออกนอกนิคมฯ

การนิคมอุตสาหกรรมฯ สั่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีร้องเรียนการขนผงแร่ยิปซัมออกนอกพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ของโรงงานปุ๋ยแห่งชาติ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ด้านตัวแทน “โรงงานปุ๋ยแห่งชาติ” เผยขออนุญาตจากเทศบาลถูกต้องทุกอย่าง วันที่ 9 กันยายน 2565 นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากกรณีที่มีการร้องเรียนว่า มีการขนผงแร่ยิปซัมออกจาก นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ของโรงงานปุ๋ยแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น ควีน : สมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 เสด็จสวรรคต 96 พรรษา วังแถลงพระอาการ ควีน น่าวิตก สมาชิกพระราชวงศ์ต่างเสด็จบัลมอรัล อังกฤษผลัดแผ่นดิน พระเจ้าชาร์ลส์ ที่ 3 God Save the King ทาง กนอ. ได้รับรายงานจาก สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด (สนพ.) ว่า บริษัทดังกล่าวได้นำส่งหนังสือแจ้งขนย้ายสารปรับปรุงคุณภาพดิน (ยิปซัม) ออกจากพื้นที่ของบริษัท ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ให้ทาง สนพ. พิจารณาตามหนังสือเลขที่ NFC 076/2565 ตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2565 และทาง สนพ.ได้มีการประชุมผู้เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว และได้ออกหนังสือเลขที่ อก. 5106.5/0698 ลงวันที่ 10 สิงหาคม 2565 ให้บริษัทปฏิบัติตามเงื่อนไขต่างๆ ตามหนังสือให้ครบถ้วน เพื่อพิจารณาอนุญาตให้บริษัทฯ นำสารปรับปรุงคุณภาพดิน (ยิปซัม) ออกนอกพื้นที่   จากนั้นในวันที่ 11 สิงหาคม 2565 เทศบาลเมืองมาบตาพุด ได้ออกหนังสืออนุญาตให้ขนย้ายของเสียจากการก่อสร้าง การรื้อถอนทำลายสิ่งก่อสร้าง และวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว ที่ไม่เป็นของเสียอันตรายออกนอกพื้นที่โรงงาน ตามหนังสือ เลขที่ รย. 52204/4345 ลงวันที่ 11 สิงหาคม 2565 อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีการร้องเรียนผ่านสื่อออนไลน์ เกี่ยวกับผลกระทบในการขนแร่ยิปซัม ออกจากนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดนั้น สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด (สนพ.) ได้เรียกบริษัทดังกล่าวมาประชุมติดตามความคืบหน้าถึงกรณีข้อร้องเรียนที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกัน สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด (สนพ.) นำโดยนายฉกาจ พัฒนศรี ผู้อำนวยการ สนพ. เจ้าหน้าที่จากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง และเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองมาบตาพุด ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณกองยิปซัมภายในบริษัท และพื้นที่ร้องเรียน พร้อมทั้งเก็บตัวอย่างยิปซัมไปตรวจสอบโดยห้องปฏิบัติการ รวมถึงให้บริษัทฯ หยุดการขนยิปซัมก่อนที่ทาง กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) จะลงพื้นที่ตรวจสอบอีกด้วย “ผมได้สั่งให้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และหากพบว่ามีความผิดจริง ก็พร้อมดำเนินการลงโทษตามขั้นตอนต่อไป เพราะ กนอ.เป็นองค์กรหลักที่เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรม และกำกับดูแลการบริหารจัดการโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศให้เป็นไปตามมาตรฐาน เราจึงมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมให้เติบโตควบคู่กับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของสังคม และชุมชนโดยรอบ”   ทั้งนี้ แหล่งข่าวจากโรงงานปุ๋ยแห่งชาติ เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า บริษัทได้ทำการยื่นขออนุญาตการขนย้ายทุกครั้งกับทางเทศบาล พร้มทั้งมีหลักฐานที่เป็นเอกสารยืนยัน ล่าสุดบริษัทอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล และเอกสารทุกอย่างเพื่อชี้แจงกับทาง กรอ. สั่งหยุดกิจการทันที โรงงานผลิตปุ๋ยแห่งชาติลอบทิ้งกากของเสีย 8 หมื่นตัน เหตุระเบิดโรงงานก๊าซหุงต้ม จ.สมุทรปราการ บาดเจ็บ 5 ราย ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.prachachat.net/breaking-news/news-1043693  

จำนวนผู้อ่าน: 2182

09 กันยายน 2022

AWC ผนึก SCB ชำระเงินดิจิทัลบนแพลตฟอร์ม B2P เสริมแกร่งซัพพลายเชนอสังหาฯ

วัลลภา ไตรโสรัส - ยรรยง ไทยเจริญ “AWC-บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน)” ร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) และดิจิทัล เวนเจอร์ส ยกระดับซัพพลายเชนอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ไทยผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน นำแพลตฟอร์ม B2P (Blockchain for Procure-to-Pay) แพลตฟอร์มจัดซื้อจัดจ้างดิจิทัลครบวงจรเชื่อมต่อเครือข่ายซัพพลายเชนของ AWC รองรับการจัดซื้อจัดจ้างและชำระเงินด้วยระบบดิจิทัลทั้งกระบวนการ พร้อมบริการ SCB Supply Chain Financing เสริมสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการที่อยู่บนระบบ B2P ให้เข้าถึงสินเชื่อทางการเงินโดยตรงจากธนาคาร วันที่ 9 กันยายน 2565 นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่า AWC ร่วมมือกับธนาคารไทยพาณิชย์ และดิจิทัล เวนเจอร์ส นำเทคโนโลยีบล็อกเชน ตอบโจทย์การพัฒนาโครงการ ก้าวนำด้านเทคโนโลยีดิจิตัลตลอดซัพพลายเชนให้แข็งแกร่งอย่างครบวงจร ควีน : สมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 เสด็จสวรรคต 96 พรรษา วังแถลงพระอาการ ควีน น่าวิตก สมาชิกพระราชวงศ์ต่างเสด็จบัลมอรัล อังกฤษผลัดแผ่นดิน พระเจ้าชาร์ลส์ ที่ 3 God Save the King โดย AWC นำแพลตฟอร์ม B2P เข้ามาใช้ในงานจัดซื้อจัดจ้าง และการชำระเงินคู่ค้าขององค์กร เสริมประสิทธิภาพ สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย โปร่งใส แม่นยำ ลดระยะเวลาการตรวจสอบ เสริมความเชื่อมั่นให้คู่ค้าของ AWC และส่งต่อศักยภาพคุณค่าองค์รวม ดร.ยรรยง ไทยเจริญ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Wholesale และรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Wealth ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า แพลตฟอร์ม B2P เป็นแพลตฟอร์มบล็อกเชนรายแรกและรายเดียวที่ปฏิวัติระบบจัดซื้อจัดจ้างและการชำระเงินคู่ค้าที่มีในประเทศไทย โดยธนาคารไทยพาณิชย์ และดิจิทัล เวนเจอร์ส ได้ร่วมกันพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์กระบวนการทำงานของลูกค้าแต่ละรายในอุตสาหกรรมที่แตกต่างกันได้อย่างดีที่สุด   “นับเป็นอีกก้าวสำคัญของแพลตฟอร์ม B2P ที่ได้รับความไว้วางใจจาก AWC มองเห็นความสำคัญของการนำดิจิทัลเข้ามาปรับใช้ในกระบวนการทำงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่ AWC ได้ในระยะยาว และมีส่วนสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ไทย ทั้งทางด้านคุณค่าของบล็อกเชนที่มีความโปร่งใส เชื่อถือได้ ธนาคารยังได้ผนวกแนวคิดการเงินที่ยั่งยืน (Sustainable Finance) ด้วยบริการ SCB Supply Chain Financing เพื่อช่วยเหลือให้ผู้ประกอบการบนระบบ B2P ให้มีความยืดหยุ่นในการจัดการเงินหมุนเวียนภายในกิจการก่อนถึงวันครบกำหนดรับเงินโดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน” นายอรพงศ์ เทียนเงิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิจิทัล เวนเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แพลตฟอร์ม B2P ได้รับการพัฒนาให้สามารถปรับใช้ได้กับระบบเฉพาะของลูกค้าแต่ละราย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของ AWC มีลักษณะงานจัดซื้อจัดจ้างที่ซับซ้อนเฉพาะตัว และมีซัพพลายเชนที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก โดย B2P สามารถช่วยลดความยุ่งยากในการจัดการงานเอกสารให้สะดวกรวดเร็วและโปร่งใส รองรับงานจัดซื้อจัดจ้างให้แก่คู่ค้าของ AWC ในทุกประเภท ทั้งนิติบุคคล และบุคคลธรรมดา ด้วยระบบการจ่ายเงินที่หลากหลายและครอบคลุม สามารถเชื่อมต่อกับระบบบริหารจัดการทรัพยากรภายในองค์กร (ERP) มีระบบ Digital Onboard ให้ซัพพลายเออร์ขึ้นระบบได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และระบบ SCB Business Net ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลแบงก์กิ้งสำหรับลูกค้าธุรกิจของธนาคาร ทำให้กระบวนการชำระเงิน และการขอสินเชื่อของคู่ค้าจึงสามารถทำได้ตลอด 24 ชั่วโมงอย่างไร้รอยต่อ สามารถช่วยประหยัดเวลาและการใช้ทรัพยากรได้จริง 50% ตั้งแต่ปีแรกที่ใช้งาน ปัจจุบัน B2P มีซัพพลายเชนลงทะเบียนเข้าใช้ระบบแล้ว 20,000 ราย ทั้งนี้ B2P (Blockchain for Procure-to-Pay) เป็นแพลตฟอร์มจัดซื้อจัดจ้างดิจิทัลครบวงจรบน Private Blockchain ครั้งแรกของโลก ได้รับการพัฒนาโดย บริษัท ดิจิทัล เวนเจอร์ส จำกัด มีเป้าหมายเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ให้กับองค์กรธุรกิจภาคเอกชนที่มีเครือข่ายซัพพลายเชนจำนวนมาก ครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการสั่งซื้อสินค้าจนถึงขั้นตอนสุดท้ายในการชำระค่าสินค้าผ่านธนาคาร โดยระบบจะเปิดให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับขั้นตอนจัดซื้อจัดจ้าง เห็นธุรกรรมในแต่ละขั้นตอนไปพร้อมกัน พร้อมทั้งสามารถตรวจสอบเอกสารต่าง ๆ อาทิ ใบสั่งซื้อ ใบรับของและใบแจ้งหนี้อัตโนมัติ ทำให้กระบวนการทั้งหมดเกิดประสิทธิภาพ รวดเร็ว ลดต้นทุนได้อย่างมีนัยสำคัญ   อีกทั้งคู่ค้ายังสามารถขอรับบริการ SCB Supply Chain Financing จากธนาคารไทยพาณิชย์ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ได้สะดวกรวดเร็ว ด้วยต้นทุนทางการเงินต่ำ ปัจจุบัน B2P ได้รับการยอมรับจากองค์กรธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรมทั้งในและต่างประเทศ AWC ตั้งบริษัทร่วมทุนหมื่นล้าน ลงทุนธุรกิจโรงแรมแหล่งท่องเที่ยวของไทย AWC-Nobu พร้อมเปิดโรงแรม-ร้านอาหารแบรนด์ Nobu แห่งแรกในไทย ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.prachachat.net/property/news-1043716

จำนวนผู้อ่าน: 2319

09 กันยายน 2022

โตโน่ ลุยโปรเจ็กต์ว่ายน้ำข้ามโขง หาเงินบริจาคโรงพยาบาล

ภาพจากอินสตาแกรม mootono โตโน่-ภาคิน ลงพื้นที่นครพนม สำรวจเส้นทางเตรียมลุยโปรเจ็กต์ว่ายน้ำข้ามประเทศไทย-ลาว ที่แม่น้ำโขง 22 ตุลาคมนี้ หาเงินบริจาคให้โรงพยาบาลที่ขาดแคลนจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์  วันที่ 9 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้นักแสดงหนุ่มโตโน่ หรือนายภาคิน คำวิลัยศักดิ์ ได้ออกมาเปิดเผยว่าเตรียมจัดกิจกรรม “OneMan And The River ว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขง” เพื่อระดมทุนให้โรงพยาบาลไทย-ลาว ประกอบด้วยโรงพยาบาลนครพนม และโรงพยาบาลแขวงคำม่วน สปป.ลาว  ควีน : สมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 เสด็จสวรรคต 96 พรรษา วังแถลงพระอาการ ควีน น่าวิตก สมาชิกพระราชวงศ์ต่างเสด็จบัลมอรัล อังกฤษผลัดแผ่นดิน พระเจ้าชาร์ลส์ ที่ 3 God Save the King โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 8 กันยายน นายภาคิน พร้อมด้วยคณะจัดกิจกรรมได้ลงพื้นที่สำรวจเส้นทางที่ จ.นครพนม พร้อมกับร่วมพิธีถวายเครื่องสักการะบูชา ขอพรองค์พระธาตุพนม ที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เพื่อเป็นสิริมงคล และขอให้การจัดกิจกรรมเป็นไปอย่างราบรื่น และได้กำหนดวันว่ายน้ำเป็นวันที่ 22 ตุลาคม 2565  นายภาคินกล่าวว่า กิจกรรมว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขง จะเริ่มระหว่างจุดองค์พญาศรีสัตนาคราช เขตเทศบาลเมืองนครพนม ไปกลับระหว่างวัดพระธาตุศรีโคตรบอง แขวงคำม่วน สปป.ลาว ระยะทางไปกลับประมาณ 15 กิโลเมตร พร้อมเชิญชวนประชาชน นักท่องเที่ยว ร่วมเชียร์ให้กำลังใจ และร่วมกิจกรรมในครั้งนี้    ซึ่งจะมีการตั้งกองทุนรับบริจาคนำงบประมาณไปสนับสนุนโรงพยาบาลที่ขาดแคลน คือ โรงพยาบาลนครพนม และโรงพยาบาลแขวงคำม่วน สปป.ลาว เพื่อจัดซื้อเครื่องมือการแพทย์ เพิ่มศักยภาพในการรักษาผู้ป่วย และเป็นการนำร่องเชิญชวน ประชาชน นักท่องเที่ยวให้ความสนใจในการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำ นอกจากนี้ยังได้ลงพื้นที่หารือกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง รวมถึงตรวจสอบเส้นทาง สถานที่จัดกิจกรรม เป็นการเตรียมความพร้อม อีกทั้งเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศรวมถึงเป็นการส่งเสริมกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโปรเจ็กต์ว่ายน้ำข้ามประเทศ ถือเป็นการต่อยอดจากโครงการ “ONE MAN & THE SEA หนึ่งคนว่าย หลายคนช่วย” ที่ต้องการปลุกจิตสำนึกให้คนไทยเห็นถึงความสำคัญของระบบนิเวศทางทะเล ลงมือช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล นำทีมโดย โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ เป็นกัปตันโครงการกับภารกิจว่ายน้ำข้าม 12 เกาะ สุราษฎร์ธานี-สมุย รวมระยะทาง 82 กม. ตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม-5 เมษายน ปี 2563 โดยระหว่างว่ายน้ำได้เปิดให้ผู้สนใจร่วมบริจาคเพื่อสมทบทุนจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์และเครื่องมือแพทย์ให้แก่สัตว์ทะเลและโรงพยาบาลริมชายฝั่ง แต่ทั้งนี้โครงการต้องหยุดพักชั่วคราวเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19  WWF พบสิ่งมีชีวิตใหม่ในลุ่มแม่น้ำโขงกว่า 200 สายพันธุ์ ทะเลเพื่อชีวิต พัฒนานวัตกรรมเพื่อดูแลสิ่งแวดล้อม ขอบคุณข้อมูล : https://www.prachachat.net/spinoff/entertainment/news-1043583

จำนวนผู้อ่าน: 2244

09 กันยายน 2022

สาระน่ารู้