“โชว์ดีซี” สู้ศึกค้าปลีกไม่ไหว มาเลย์ยึดเปลี่ยนทีมบริหาร

สู้รอบใหม่ ศูนย์การค้า “โชว์ดีซี” เปลี่ยนทีมบริหาร ทุนมาเลย์ขึ้นแท่นเตรียมยกเครื่องครั้งใหญ่ตุลาคมนี้ หลังแม็กเนตไฮไลต์สำคัญ “หิมพานต์ อวตาร-องค์บากไลฟ์” ถอนทัพ แบกรับต้นทุนไม่ไหว พร้อมเติมร้านค้าเสริมทัพใหม่อีกครั้ง

แม้เปิดบริการมาตั้งแต่กลางปี 2560 แต่จำนวนผู้เข้ามาใช้บริการภายในศูนย์การค้าโชว์ดีซีก็ยังไม่กระเตื้องขึ้น เช่นเดียวกับร้านค้าแม็กเนตสำคัญต่างถอนทัพและปิดตัว อาทิ โชว์ “หิมพานต์ อวตาร” ที่ได้ปิดรอบการแสดงลงเมื่อเดือนพฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา หลังจากก่อนหน้านี้ “องค์บากไลฟ์” ได้ปิดรอบการแสดงลงไปเมื่อปลายปี 2560 เช่นเดียวกับ “ลอตเต้ ดิวตี้ฟรี” ที่ก็ยังไม่สามารถเปิดให้บริการได้ครบตามแผน

ท้ายที่สุด ศูนย์การค้าโชว์ดีซีได้เปลี่ยนตัวผู้บริหารใหม่เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยให้นายโก ซู ซิง เข้ามานั่งเก้าอี้ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแทนนายชยดิฐ หุตานุวัชร์ ประธาน บริษัท โชว์ ดีซี คอร์ป จำกัด ขณะที่สถานการณ์ของศูนย์การค้าโชว์ดีซีก็ยังไม่มีสัญญาณบวก ร้านค้าสำคัญ ๆ ที่ทางทีมผู้บริหารเดิมเคยดีลไว้ก็ทยอยออกจากศูนย์

จากข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าระบุว่า บริษัท โชว์ ดีซี คอร์ป จำกัด ได้เพิ่มทุนจดทะเบียนถึง 6 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2555-2559 โดยล่าสุดทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 1,450 ล้านบาท ขณะที่สัดส่วนถือหุ้นปัจจุบันแบ่งเป็น พีพีเอ็ม โกลบอล ลิมิเต็ด 46.28% บริษัท เออีซี แคปปิตอล จำกัด 43.71% และนายเพ่งเพียร เหล่ากำเนิด 10% สำหรับผลประกอบการตั้งแต่ปี 2555-2559 ก็ขาดทุนต่อเนื่องติดต่อกัน โดยปี 2555 ขาดทุน 47 ล้านบาท ปี 2556 ขาดทุน 58 ล้านบาท ปี 2557 ขาดทุน 60 ล้านบาท ปี 2558 ขาดทุน 162 ล้านบาท และปี 2559 ขาดทุน 534 ล้านบาท

เตรียมรีลอนช์โฉมใหม่ ต.ค.นี้

แหล่งข่าวระดับสูงจากบริษัท โชว์ ดีซี คอร์ป จำกัด กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า โชว์ดีซีได้เปลี่ยนผู้บริหารใหม่ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยได้แต่งตั้งผู้บริหารจากมาเลเซีย นายโก ซู ซิง เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แทน นายชยดิฐ หุตานุวัชร์ ประธาน บริษัท โชว์ ดีซี คอร์ป จำกัด คนก่อน พร้อมกับเตรียมรีลอนช์ศูนย์ใหม่อีกครั้งในเดือนตุลาคมนี้

 

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา โชว์ดีซีก็พยายามปรับรูปแบบและบริหารจัดการภายในมาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทั้งแม็กเนตหลักที่ดึงมา อย่างลอตเต้ ดิวตี้ฟรี กลับมีปัญหา เปิดไม่ได้ตามแผน ทำให้จำนวนทราฟฟิกของนักท่องเที่ยวก็ลดลงเรื่อย ๆ สวนทางกับต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้น

สอดรับกับนโยบายใหม่ของผู้บริหารใหม่ นายโก ซู ซิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โชว์ ดีซี คอร์ป จำกัด ที่ประกาศว่าจะปรับโฉมและยกระดับศูนย์การค้าโชว์ ดีซี สร้างความหลากหลายของธุรกิจทั้งด้านศูนย์การค้าและเอ็นเตอร์เทนเมนต์เพื่อดึงดูดผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวให้ได้

“โดยพร้อมต่อยอดให้เป็นแลนด์มาร์กย์การค้าไลฟ์สไตล์ของกรุงเทพฯ ซึ่งมีไอเดียและแผนธุรกิจใหม่ ๆ ทั้งในส่วนของค้าปลีกและเอ็นเตอร์เทนเมนต์แล้ว ซึ่งจะเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้”

ร้านค้า-แม็กเนตทยอยถอยทัพ

แหล่งข่าวจากธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่ให้ข้อมูลกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ตอนนี้ศูนย์การค้าโชว์ดีซีค่อนข้างเงียบเหงา เนื่องจากแม็กเนตต่าง ๆ ที่ทางทีมผู้บริหารเดิมเคยดีลไว้ทยอยปิดตัวลง เช่น โชว์ “หิมพานต์ อวตาร” ของบริษัท ซีเอ็มโอ โชว์ คอร์ป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนบริษัท โชว์ ดีซี คอร์ป จำกัด กับบริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) ที่ได้ปิดรอบการแสดงลงเมื่อเดือนพฤษภาคม 2561

หลังจากก่อนหน้านี้ “องค์บากไลฟ์” ได้ปิดรอบการแสดงลงไปเมื่อปลายปี 2560 โดยปัจจัยหลักที่ทำให้แม็กเนตต่าง ๆ เริ่มทยอยปิดตัวลง เนื่องจากตัวศูนย์ไม่สามารถเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวและผู้เข้ามาใช้บริการได้ตามแผนที่วางไว้ เพราะมีปัญหาด้านการคมนาคม การเดินทางไม่สะดวก แม้ทางศูนย์จะแก้ปัญหาด้วยการนำรถชัตเติลบัสมาบริการรับ-ส่งแล้วก็ตาม ประกอบกับมีปัญหาภายใน และแม็กเนตหลัก ๆ อย่าง ลอตเต้ ดิวตี้ฟรี ที่เปิดให้บริการได้ไม่ครบ ทำให้ศูนย์ไม่ประสบความสำเร็จตามแผนที่วางไว้ด้วย

โชว์ดีซีมีจุดขายที่ชัดเจนว่าเจาะนักท่องเที่ยว ด้วยการวางระบบ โครงสร้างการบริหารจัดการและแม็กเนตต่าง ๆ ให้รองรับลูกค้ากลุ่มนี้ แต่แม็กเนตหลักที่ดึงมาอย่างลอตเต้ ดิวตี้ฟรี กลับเปิดไม่ได้ จำนวนทราฟฟิกก็ลดลงเรื่อย ๆ ดังนั้นร้านค้า รวมถึงโชว์ต่าง ๆ ก็จำเป็นต้องปิดการแสดงลง เพราะแบกต้นทุนไม่ไหว

“ต้องจับตาอีกครั้งในเดือนตุลาคมนี้ว่า ทีมผู้บริหารใหม่จะรีลอนช์ศูนย์การค้าอย่างไร และจะใส่แม็กเนตอะไรเข้ามาปลุกทราฟฟิก”

รอดู…ทิศทางลม

สอดรับ นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ได้ตัดสินใจปิดการแสดง “หิมพานต์ อวตาร” ลงเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เนื่องจากศูนย์การค้าโชว์ดีซีไม่สามารถเพิ่มทราฟฟิกของนักท่องเที่ยวได้ตามที่วางแผนไว้ ทำให้กระทบต่อโชว์ต่าง ๆ ภายในศูนย์ ซึ่งการปิดการแสดงโชว์ลงครั้งนี้ บริษัทจึงถือโอกาสเตรียมพัฒนารูปแบบโชว์ใหม่อีกครั้ง แต่ยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้ชัดเจนว่าจะเปิดแสดงอีกครั้งในเดือนใด เนื่องจากทางโชว์ดีซีเองก็มีการเปลี่ยนผู้บริหาร เปลี่ยนนโยบายใหม่ ดังนั้นจึงต้องประเมินสถานการณ์อีกครั้ง

บรรยากาศยังเงียบเหงา

จากการสำรวจพื้นที่ของผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” พบว่า ขณะนี้บรรยากาศภายในศูนย์โชว์ดีซีค่อนข้างเงียบเหงา ร้านรวงต่าง ๆ มีผู้มาใช้บริการไม่มาก แม้กระทั่งร้านแม็กเนตอย่างแมคโดนัลด์ สตาร์บัคส์ ทราฟฟิกก็ยังไม่มากนัก หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์อย่างโชว์หิมพานต์ อวตาร หรือองค์บากไลฟ์โชว์ ก็มีแต่เพียงสแตนดี้วางไว้ ตลอดจนพื้นที่เช่าจำนวนมากได้ปิดบริการหรือย้ายสาขาออกไปแล้ว ในส่วนของร้านค้าเชนใหญ่ที่ยังเปิดบริการ ได้แก่ ไนกี้ เอาท์เล็ท, พูม่า เอาท์เล็ท, เอชแอนด์เอ็ม ฯลฯ และโซนไฮไลต์อย่าง YG Republique ที่มีร้านอาหาร คาเฟ่ และผับ สไตล์เกาหลี จำนวน 3 ร้าน ตลอดจนร้านค้าปลอดภาษี ลอตเต้ ดิวตี้ฟรี ซึ่งมีการเปิดให้บริการเพียง 1 ชั้น (บริเวณชั้น 3) จากเดิมที่วางแผนว่าจะมีทั้งหมด 2 ชั้น (บริเวณชั้น 2-3)

เพิ่มจุดรถตู้ฟรีรับขาช็อป

ทั้งนี้จากการสอบถามพนักงานของลอตเต้ ดิวตี้ฟรีระบุว่า สินค้าที่นำมาจำหน่ายเป็นสินค้าที่วางขายในห้างสรรพสินค้าทั่วไป เช่น เสื้อผ้า ชุดชั้นใน เครื่องหอม ขนม ยาดม ยาหม่อง เป็นต้น ในราคาปกติ ซึ่งลูกค้าที่ไม่มีบอร์ดิ้งพาสก็สามารถซื้อได้ เนื่องจากไม่ได้เป็นสินค้าปลอดภาษี ที่จะต้องมีจุดรับสินค้าภายในสนามบิน

ขณะเดียวกันเฟซบุ๊กแฟนเพจ “โชว์ ดีซี” ได้แจ้งว่า ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นไป จะนำรถตู้มาให้บริการรับ-ส่งผู้เข้ามาใช้บริการแทนรถบัส โดยจะออกทุก ๆ 15-30 นาที เพื่ออำนวยความสะดวกใน 2 จุด คือ สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเพชรบุรี และโรงพยาบาลพระราม 9 รวมถึงลดจำนวนการบริการรับ-ส่งของรถชัตเติลบัสเหลือ 3 เส้นทาง ได้แก่ สนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ และรถไฟฟ้าใต้ดินเพชรบุรี จากก่อนหน้าที่มีให้บริการรับ-ส่งในหลายจุด เช่น ถนนข้าวสาร อิมแพ็ค เมืองทองธานี โรงแรมโนโวเทล สยาม เป็นต้น

ส่องจุดขายบิ๊กโปรเจ็กต์ 9,500 ล.

ทั้งนี้ ศูนย์การค้าโชว์ ดีซี เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเมษายนปี 2560 ด้วยงบฯการลงทุนกว่า 9,500 ล้านบาท ด้วยฝีมือกับปลุกปั้นของนายชยดิฐ หุตานุวัชร์ ในฐานะประธาน บริษัท โชว์ ดีซี คอร์ป จำกัด ตั้งอยู่ย่านพระราม 9 บนพื้นที่ 43 ไร่ ชูจุดขายที่แตกต่างจากศูนย์การค้าอื่น ๆ คือการเป็นศูนย์การค้าและเอ็นเตอร์เทนเมนต์ครบวงจร รองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งวางสัดส่วนกลุ่มเป้าหมายผู้มาใช้บริการเป็นคนไทย 50% และชาวต่างชาติ 50% ตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยวปีละ 10 ล้านคน ขณะที่ตั้งเป้าหมายใหญ่ที่วางไว้ คือ การเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมระดมแม็กเนตต่าง ๆ โดยเฉพาะจากเกาหลี ด้วยการสร้าง “K-District by Mall Of Korea @SHOW DC” เป็นแม่เหล็กดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย ตามด้วยการร่วมทุนกับบริษัท บีอีซี เทโร เอนเตอร์เทนเมนต์ จำกัด ตั้งบริษัท บีอีซี-เทโร โชว์ จำกัด บริหารจัดการพื้นที่จัดงานในโชว์ดีซี ทั้งในและนอกอาคาร หวังดึงโชว์ต่าง ๆ เข้ามาพร้อม ๆ กับการเพิ่มทราฟฟิกให้แก่ศูนย์

 

ที่มา : prachachat.net


จำนวนผู้อ่าน: 1823

31 กรกฎาคม 2018