ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดทาวน์เฮาส์ที่มีมูลค่าตลาดรวมปีละ 80,000 ล้านบาท มีแรงกระเพื่อมจากการเข้าสู่ตลาดของน้องใหม่ค่ายออลล์ อินสไปร์ฯ ซึ่งจุดพลุการแข่งขันตั้งแต่ต้นปีด้วยการเปิดตัวทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น “เดอะวิชั่น ลาดพร้าว-นวมินทร์” โดยเคลมว่าเป็นรายแรกของประเทศไทยที่ลงทุนตัดถนนซอย 12 เมตรทั้งโครงการ
เจ้าแรกถนนซอย 12 เมตร
นายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทกำหนดเปิดพรีเซลทาวน์เฮาส์ 3 ชั้นโครงการแรกของบริษัทแบรนด์ “เดอะวิชั่น ลาดพร้าว-นวมินทร์” วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2562 ทำเลอยู่ในซอยนวมินทร์ 85 ทั้งโครงการมี 303 ยูนิต แต่เปิดขายเฟสแรกก่อน 100 ยูนิต ล่าสุดมีผู้สนใจจองสิทธิ์ซื้อ 250 ราย
คอนเซ็ปชวลดีไซน์เป็นทาวน์เฮาส์ XL ขยายทุกอย่างให้ใหญ่กว่าคู่แข่ง อาทิ ไซซ์บ้านมี 2 ขนาด คือ 180 กับ 220 ตารางเมตร เทียบเท่าบ้านเดี่ยวไฮเอนด์, ฟังก์ชั่น 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ โดยห้องน้ำทุกห้องมีชาวเวอร์หรือส่วนเปียกสำหรับอาบน้ำได้จริง, ระเบียงติดตั้งกระจกเทมเปอร์เต็มบาน, มี 2 ห้องนอนใหญ่ หรือ 2 มาสเตอร์เบดรูมจุดขายในพื้นที่ส่วนกลาง คลับเฮาส์ทำเป็นอาคาร 2 ชั้น มีสระว่ายน้ำความยาว 30 เมตร โดยมีไฮไลต์อยู่ที่การตัดถนนภายในโครงการให้มีขนาดใหญ่พิเศษ จากปกติถนนซอยหรือถนนย่อยในโครงการทาวน์เฮาส์กฎหมายจัดสรรมีข้อกำหนดให้ทำเลต่างจังหวัดขั้นต่ำกว้าง 8 เมตร และในพื้นที่กรุงเทพฯ จังหวัดเดียวที่ถนนซอยขั้นต่ำ 9 เมตรเดอะวิชั่นฯต้องการสร้างความแตกต่างและสร้างการจดจำแบรนด์ ดังนั้น จึงลงทุนตัดถนนมีความกว้าง 12 เมตรทั้งโครงการ ในขณะที่แลนด์แบงก์เต็มแปลง 30 ไร่ มีรูปร่างสี่เหลี่ยมคางหมู สามารถตัดถนนซอย 9 เมตรก็ได้ แต่บริษัทยืนยันลงทุนถนน 12 เมตร
“เหตุผลที่ต้องทำถนนกว้างพิเศษเพื่อแก้ปัญหาการจอดรถหน้าบ้านแล้วมีการกระทบกระทั่งกันระหว่างเพื่อนบ้าน ซึ่งออลล์ อินสไปร์ฯเคลมว่าเราเป็นเจ้าแรกของประเทศไทยที่กล้าให้อย่างนี้” นายธนากรกล่าว
พฤกษาฯกร้าวรักษาแชมป์
นายธีรเดช เกิดสำอางค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มโครงการทาวน์เฮาส์ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดทาวน์เฮาส์ในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑลมีมูลค่ารวมปีละ 80,000 ล้านบาท โดยพฤกษาฯมีส่วนแบ่งอันดับ 1 ไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้มีฐานลูกค้าราคา 3-5 ล้าน สัดส่วน 21% จึงเป็นตลาดที่ต้องปกป้องการแข่งขันไว้ให้ได้
“ทาวน์เฮาส์แพ็กที่ขายดี คือ แบบ 2-3 ชั้น โจทย์ธุรกิจคือ ต้นทุนที่ดินแพงขึ้นทำให้ต้องขยับเซ็กเมนต์สูงขึ้น พฤกษาฯต้องการขยายฐานลูกค้าไปหาตลาดกลาง-บนมากขึ้น ปีนี้มีโปรดักต์ใหม่แบบ 3 ชั้นครึ่งกับดูเพล็กซ์ ทำเลโฟกัสย่านพัฒนาการ พระราม 9 ซึ่งถือเป็นโซน connecting ที่เหมาะทำสินค้าทาวน์เฮาส์มากที่สุด”
สำหรับแผนลงทุน พฤกษาฯวางแผนพัฒนาเซ็กเมนต์ 3-5 ล้านบาทแบบรักษาฐานที่มั่น มูลค่าโครงการ 5,000-6,000 ล้านบาทเนื่องจากประเมินเศรษฐกิจลำบาก แต่วางแผนบุกหนักในปี 2563 ในขณะที่ปีนี้เตรียมเปิดทาวน์เฮาส์ดูเพล็กซ์ โซนพัฒนาการ หน้ากว้าง 7.5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 226 ตารางเมตร ราคา 6.9 ล้านบาท
เอพีมั่นใจคนรุ่นใหม่ซื้อ 70%
นายภมร ประเสริฐสรรค์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจแนวราบ บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปี 2562 นี้ ตลาดแนวราบคึกคักมากขึ้น โดยเฉพาะทาวน์โฮมในเมืองระดับกลาง-บน ราคา 4-9 ล้านบาท/ยูนิต ซึ่งเอพีเป็นเจ้าตลาดเซ็กเมนต์นี้ มีฐานลูกค้าคนรุ่นใหม่อายุไม่เกิน 35 ปี เดิมซื้อในสัดส่วน 39% ปัจจุบันลูกค้ากลุ่มนี้เพิ่มสัดส่วนเป็น 70% มาจากจุดขายพื้นที่ใช้สอย สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ และโลเกชั่นเข้าเมืองสะดวก
“จุดแข็งเอพีเรามีแบรนด์บ้านกลางเมืองเจาะตลาดทาวน์โฮม 3 ชั้น ราคา 4-9 ล้านบาท และแบรนด์พลีโน่เจาะตลาด 2 ชั้น ราคา 2-4 ล้าน มีแบบบ้านให้เลือกมากกว่า 10 โมเดล นำแนวคิด stanford design thinking เข้ามาใช้ในกระบวนการออกแบบ ทุกพื้นที่ต้องใช้งานได้จริงไม่เกิดพื้นที่ทิ้งเปล่า”
โกลด์ตะลุยดัก 2 ทำเล
นายภวรัญชนม์ อุดมศิริ กรรมการผู้จัดการโครงการทาวน์เฮาส์ บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือโกลเด้นแลนด์ กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่าภาพความสำเร็จในตลาดทาวน์เฮาส์ของโกลด์ช่วง 3-4 ปี ที่ผ่านมา ทำให้คนคิดว่าตลาดโต แต่จริง ๆ แล้วตลาดทาวน์เฮาส์ไม่ได้โตขึ้น เพียงแต่โกลด์มีส่วนแบ่งตลาดอันดับ 2 จากการแข่งขันที่ดึงมาจากเบอร์ 1 และกลุ่มทุนโลคอล
สำหรับการเข้ามาแข่งขันของรายใหม่ ๆ มองว่าไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้เวลาและประสบการณ์ ต้องมี learning curve อีกเยอะ โดยเฉพาะต้นทุนก่อสร้างซึ่งต้องบริหารให้ต่ำกว่า 10,000 บาท/ตารางเมตร ปัจจุบันมีโกลด์กับกลุ่มพฤกษา เรียลเอสเตท ที่ทำต้นทุนพัฒนาโครงการได้ดี
“ตลาดทาวน์เฮาส์ฐานใหญ่สุด คือ ราคา 2-3 ล้าน ซึ่งเราเปิดเกือบครบทุกทำเลแล้ว ในขณะที่ราคา 4-5 ล้าน มีขนาดตลาดปีละ 10,000 ล้านมีเอพี เป็นเบอร์ 1 โกลด์ก็ลงทุนปีละ 3-4 พันล้านอยู่แล้ว พร้อมทุกเมื่อถ้ามีจังหวะบุกเพิ่มได้ก็จะบุก”
“ข้อกำหนดถนน 9 เมตร กับ 12 เมตร คอสต์ต่างกัน 35% ถ้าทำ 12 เมตร เท่ากับกำลังสนับสนุนให้คนจอดรถหน้าบ้าน ถ้าสนับสนุนอย่างนั้นคอสต์วิ่งกลับไปหาลูกค้าหมด ซึ่งเชื่อว่ามีลูกค้าทั้งที่ต้องการจ่ายกับไม่จ่าย บิสซิเนสโมเดลต้องดูให้จบ ดูยาว ๆ รบยาว ๆ”
เพอร์เฟคชูโปรดักต์ 4 ล้าน
นายวสันต์ ศรีรัตนพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มพัฒนาธุรกิจ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า แนวโน้มทาวน์เฮาส์ยังมีดีมานด์สูง เพอร์เฟคตั้งเป้าเติบโต 10% ยอดขาย 2,000 ล้านบาท มี backlog 400-500 ล้านบาท รูปแบบการแข่งขันเดิมแข่งด้วยราคา ปัจจุบันบิ๊กแบรนด์หันไปแข่งดีไซน์กับฟังก์ชั่นมากขึ้นเพื่อจับกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ โดยเพอร์เฟคมีจุดเน้นเพิ่มฟังก์ชั่นให้น่าสนใจมากขึ้น เช่น ชั้นล่างปรับให้มีทั้งห้องนั่งเล่น ห้องครัว และเพิ่มห้องอเนกประสงค์ ในขณะที่ห้องเก็บของซึ่งเป็นฟังก์ชั่นของบ้านเดี่ยวก็ต้องมี ชั้นบนจัดระเบียงเล็กไว้สำหรับปลูกต้นไม้ได้ บางแบบบ้านเพิ่มห้องน้ำในห้องนอนใหญ่
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.prachachat.net/property/news-294070
จำนวนผู้อ่าน: 2257
25 กุมภาพันธ์ 2019