เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรตั้งเป้าหมายที่จะขยายฐานผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปีนี้ 10% หรือ ราว 1 ล้านราย จากปัจจุบันมีฐานผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประมาณกว่า 10 ล้านราย โดยกรมฯจะนำระบบ Data Analysis(ระบบวิเคราะห์ข้อมูล) เข้ามาตรวจสอบและขยายฐาน คาดว่าเมื่อฐานภาษีเพิ่มขึ้นทำให้ผู้เสียภาษีปัจจุบันมีอยู่ราว 3-4 ล้านคนเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
นายเอกนิติ กล่าวว่า หนึ่งในกลุ่มเป้าหมายของกรมฯในการขยายฐานภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คือ กลุ่มผู้ค้าออนไลน์ ซึ่งขณะนี้กรมใช้ระบบไอทีเข้ามาช่วยตรวจสอบอย่างเข้มข้น ทำให้มีข้อมูลผู้ค้าออนไลน์ที่ยังไม่เข้าสู่ระบบภาษีจำนวนหนึ่งในเบื้องต้น กรมฯหวังว่า ผู้ค้าออนไลน์จะเดินเข้ามาเสียภาษีต่อกรมฯ แต่หากยังไม่เข้ามา กรมฯจะใช้วิธีเชิญพบ เพื่อให้เข้าสู่ระบบอย่างถูกต้อง
“ต้องการให้กลุ่มธุรกิจออนไลน์เสียภาษีถูกต้อง ขณะนี้พอรู้ตัวแล้วว่า มีคนค้าขายออนไลน์อยู่จำนวนเท่าไหร่ ซึ่งในการขยายฐานภาษีไม่ได้คาดหวังรายได้เพิ่มขึ้นเป็นอันดับแรก แต่ต้องทำให้ฐานกว้างขึ้น ถ้าหากฐานภาษีกว้างขึ้น ทำให้รายได้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย หากผู้มีเงินได้เข้าสู่ระบบภาษีมียอดการเสียภาษีเพิ่มอีก 100 บาทต่อราย เราก็จะได้ภาษีเพิ่มถึง 100 ล้านบาท”นายเอกนิติกล่าว
นายเอกนิติกล่าวต่อว่า สำหรับยอดยื่นแบบแสดงรายได้ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเปิดให้ยื่นตั้งแต่ 1 มกราคม 2562 สิ้นสุด 31 มีนาคม 2562 ล่าสุด จนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ มียอดผู้เสียภาษีแล้ว 3.2 ล้านราย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดยื่นประมาณ 2.7 ล้านราย ในจำนวน 3.2 ล้านรายดังกล่าว เป็นการยื่นผ่านระบบอินเตอร์เน็ตสูงถึง 3 ล้านราย หรือ 90% ของผู้ยื่นทั้งหมด และ ในจำนวนผู้ยื่นทั้งหมด มียอดการขอคืนภาษีแล้ว 1.5 ล้านราย ในจำนวนนี้ กรมฯได้คืนภาษีแล้ว 1 ล้านราย
นายเอกนิติกล่าวว่า ในปีนี้ยอดยื่นแบบแสดงรายได้ภาษีผ่านอินเตอร์เน็ตสูงมาก โดยในรายที่ขอคืนภาษีสามารถคืนอย่างรวดเร็ว ส่วนในรายที่ยังไม่ได้รับคืน แสดงว่า ยังมีรายการที่ยื่นไม่ครบ เมื่อตรวจสอบก็ไม่สามารถคืนให้ได้ อย่างไรก็ดี ในช่วงสิ้นสุดการยื่นแบบชำระภาษี เชื่อว่า จะมียอดยื่นแบบมากกว่า 10 ล้านราย
ที่มา:มติชนออนไลน์
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.prachachat.net/finance/news-297256
จำนวนผู้อ่าน: 2248
05 มีนาคม 2019