ธุรกิจท่องเที่ยวซบหนัก ภูเก็ต-พัทยาเร่ขายโรงแรม

อุตฯท่องเที่ยว “ภูเก็ต-พัทยา” ซบหนัก ! นักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งจีน-ยุโรปหายยาว สารพัดปัจจัยเสี่ยง แถมบาทแข็ง นักท่องเที่ยวใช้เงินน้อยลง วงในชี้ภูเก็ตซบยกแผงยันกระบี่-พังงา แอตต้าเผยนักท่องเที่ยว “กรุ๊ปทัวร์” ท็อป 10 ลดลงแทบทุกตลาด ทอท.เปิดตัวเลขเที่ยวบิน-ผู้โดยสารสนามบินภูเก็ตติดลบ โรงแรมแข่งตัดราคาแย่งลูกค้า รายกลาง-เล็กแบกต้นทุนไม่ไหว “ภูเก็ต-พัทยา” ประกาศขายโรงแรม-รีสอร์ตเกลื่อน

 

อุตฯท่องเที่ยวสะเทือน

แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวรายหนึ่งเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่าปัจจุบันภาพรวมของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยตกอยู่ในภาวะชะลอตัวอย่างหนัก โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวหลักอย่างจังหวัดภูเก็ตและเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี สำหรับในพื้นที่ภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียงที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงชัดเจนตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เรือล่มช่วงกลางปี 2561 และยังส่งผลกระทบต่อเนื่องมาถึงขณะนี้ ที่สำคัญขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณว่ากลุ่มเครื่องบินเช่าเหมาลำ หรือชาร์เตอร์ไฟลต์ที่หยุดให้บริการไปเมื่อกลางปีที่แล้ว จะกลับมาให้บริการตามปกติเมื่อไหร่ โดยเฉพาะชาร์เตอร์ไฟลต์จากประเทศจีน

แหล่งข่าวยังประเมินว่า การชะลอตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวคาดว่าจะลากยาวและส่งผลกระทบถึงช่วงไฮซีซั่นปลายปีนี้ด้วย ทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนและนักท่องเที่ยวฝั่งยุโรป และกลุ่มสแกนดิเนเวียซึ่งปกติจะเข้ามาพักเป็นระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 1 เดือน

“ตอนนี้แทบจะไม่มีสัญญาณบวก ประกอบกับเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ยิ่งทำให้มีผลต่อการตัดสินใจเดินทางของนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น” แหล่งข่าวกล่าว

ภูเก็ต-กระบี่-พังงาทรุดยกแผง

แหล่งข่าวกล่าวว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการบริษัทนำเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร ฯลฯ ต่างประสบปัญหากันอย่างชัดเจน โดยเฉพาะกลุ่มโรงแรมที่จำเป็นต้องมาเล่นกลยุทธ์ราคาอย่างหนัก โรงแรมระดับ 4 ดาวในภูเก็ตบางแห่งขายห้องพักเพียงคืนละ 800-1,000 บาท ขณะที่โรงแรม5 ดาว ก็ขยับราคาขายลงมาตีตลาด 4 ดาวอย่างหนัก และตอนนี้กระทบไปถึงกระบี่ พังงา

ซึ่งที่ผ่านมานักท่องเที่ยวต่างชาติล้นทะลักจากภูเก็ต และดันให้ตลาดกระบี่ พังงาและพื้นที่ใกล้เคียงขยายตัว แต่เมื่อนักท่องเที่ยวลดลงก็ทำให้ได้รับผลกระทบทั้งหมด นอกจากนี้ยังเห็นปรากฏการณ์ที่กลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมติดป้ายขายกันมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการท้องถิ่นและรายเล็ก ๆ เนื่องจากแบกรับต้นทุนไม่ไหว

“ตลาดจีน” ซบทั้งระบบ

นายสุรวัช อัครวรมาศ เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) และอุปนายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ตลาดนักท่องเที่ยวจีนปีนี้ชะลอตัวทั้งระบบ ซึ่งประเด็นหลักเป็นผลจากการหายไปของกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เป็น “กรุ๊ปทัวร์” เนื่องจากสายการบินชาร์เตอร์ไฟลต์ที่เคยบินตรงเข้าภูเก็ตหยุดให้บริการตั้งแต่เมื่อกลางปีที่ผ่านมายังไม่กลับมา

“ปรากฏการณ์ของตลาดจีนวันนี้วิเคราะห์ยากพอสมควร เพราะมีปัจจัยหลาย ๆ อย่างเข้ามากระทบ ทั้งเรื่องสงครามการค้า การชะลอตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศจีน รวมถึงการหันมาโปรโมตการท่องเที่ยวภายในประเทศของจีนเอง” นายสุรวัชกล่าว

“กรุ๊ปทัวร์” ติดลบหนักมาก

ทั้งนี้ จากตัวเลขของสมาคมแอตต้า พบว่านักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านสมาชิกของแอตต้า (กรุ๊ปทัวร์) ผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมือง ช่วงวันที่ 1 ม.ค.-20 มิ.ย.2562 พบว่าตลาดหลัก 10 อันดับแรกปรับตัวลดลงถึง 7 ประเทศ ประกอบด้วย จีน จำนวน 1.54 ล้านคน ติดลบ 15.16%, เกาหลีใต้ 1.12 แสนคน ติดลบ 15.08%, ญี่ปุ่น 8.36 หมื่นคน ติดลบ 8.32%, รัสเซีย 7.45 หมื่นคน ติดลบ 1.38%, อินโดนีเซีย 4.23 หมื่นคน ติดลบ 14.58%, สหราชอาณาจักร 3.54 หมื่นคน ติดลบ 23.54% และ เยอรมัน 2.78 หมื่นคน ติดลบ 6.70% ส่วนที่เพิ่มขึ้นมีแค่ 3 ประเทศคือ เวียดนาม 1.44 แสนคน เพิ่มขึ้น 2.57%, อินเดีย 1.34 แสนคน เพิ่มขึ้น 7.33% และไต้หวัน 4.91 หมื่นคน เพิ่มขึ้น 14.60%

สอดคล้องกับที่ ดร.สุมาลี ว่องเจริญกุล เลขาธิการแอตต้า ระบุว่า ช่วงวันที่ 1 ม.ค.-20 มิ.ย. 2562 มีนักท่องเที่ยวที่เดินทางแบบกรุ๊ปทัวร์ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมืองรวม 2.64 ล้านคน ลดลง 11.62%

“ไม่อยากให้ทุกฝ่ายตกใจ ตัวเลขของสมาคมแอตต้าเป็นการเก็บสถิติในส่วนที่เป็นกรุ๊ปทัวร์และผ่านแค่ 2 สนามบิน ขณะที่นักท่องเที่ยวปัจจุบันนิยมเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเอง เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะ และยังนิยมเดินทางไปยังสนามบินปลายทางโดยไม่ผ่านกรุงเทพฯ” ดร.สุมาลีกล่าว

เที่ยวบิน-ผู้โดยสารภูเก็ตหดตัว

ด้านนายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2561-พฤษภาคม 2562 ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งให้บริการเที่ยวบินจำนวน 606,891 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 3.67% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มีผู้โดยสาร 97.23 ล้านคน เพิ่มขึ้น 1.78% เป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 57.06 ล้านคน เพิ่มขึ้น 3.72% และผู้โดยสารภายในประเทศ 40.17 ล้านคน ลดลง 0.85% (ข้อมูล ณ วันที่ 19 มิ.ย. 62)

หากโฟกัสเฉพาะท่าอากาศยานภูเก็ตพบว่าเที่ยวบินและผู้โดยสารปรับตัวลดลงอย่างชัดเจน อยู่ที่ 50,188 เที่ยวบิน ลดลง 2.9% เที่ยวบินระหว่างประเทศ 28,018 เที่ยวบิน ลดลง 1.85% และภายในประเทศ 22,170 เที่ยวบิน ลดลง 4.2% โดยมีจำนวนผู้โดยสารทั้งสิ้น 8.167 ล้านคน ลดลง 4.42% ผู้โดยสารเส้นทางระหว่างประเทศ 4.838 ล้านคน ลดลง 3.14% และผู้โดยสารเส้นทางภายในประเทศ 3.329 ล้านคน ลดลง 6.23%

“เที่ยวบินที่ลดลงอย่างมีนัยยะในช่วงที่ผ่านมาคือจากตลาดยุโรปและจีน สำหรับตลาดจีนเริ่มเห็นทิศทางกลับมาบ้างแล้ว แต่ต้องรอการปรับตารางการบินสำหรับช่วงฤดูหน้าหนาวในเดือนตุลาคมนี้อีกครั้ง” นายนิตินัยกล่าว

พัทยา ทัวร์จีนหายกว่า 50% 

ด้านนายจักรรัตน์ เรืองรัตนากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท รัตนากรแอสเซท จำกัด ผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และโรงแรมในจังหวัดชลบุรี ภูเก็ต กระบี่ เกาะสมุย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภาพรวมธุรกิจโรงแรมปีนี้เหนื่อยมากกว่าในรอบหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะเมืองพัทยาซึ่งพบว่าหลังจากเดือน ม.ค.เป็นต้นมาทัวร์จีนลดลงอย่างน่าใจหาย มากกว่า 50% ทั้งในแง่จำนวนและการใช้จ่ายต่อหัว

“ช่วงสงกรานต์หายไปครึ่งหนึ่ง มาช่วง พ.ค.หายไปอีกครึ่งหนึ่ง และแนวโน้มทัวร์จีนจะหายไปมากขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่ยุโรปและสแกนดิเนเวียก็มาเที่ยวลดลง10-20% ทั้งใช้เวลาสั้นลง และค่าใช้จ่ายต่อหัวลดลง เพราะเศรษฐกิจโลกตกต่ำ ค่าเงินบาทแข็ง ประกอบกับที่ผ่านมาโรงแรมที่พัทยาเปิดขึ้นเยอะมาก ขณะที่คอนโดฯ เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ก็มาปล่อยเช่ารายวันแข่ง ตอนนี้มีการแข่งขันตัดราคากันน่ากลัวมากถึง 50% ขณะที่ต้นทุนค่าใช้จ่ายทุกอย่างสูง ทำให้ตอนนี้มีผู้ประกอบการกว่า 10 รายประกาศขายกิจการ ” นายจักรรัตน์กล่าว

ภาพธุรกิจโรงแรมประกาศขายมากขึ้นเรื่อย ๆ ปีนี้จะหนักเป็นพิเศษ ในชลบุรีมีประกาศขายเป็น 10 แห่ง โดยเฉพาะศรีราชาและพัทยา ส่วนใหญ่เป็นโรงแรมของคนไทยระดับ 3 ดาว และ 4 ดาว ตั้งแต่ขนาด 100-300 ห้อง บางแห่งกิจการพอไปได้แต่อยากได้กำไร บางแห่งติดภาระหนี้แบงก์จนชนเพดานต้องขาย ไม่ขายโดนยึด

“เรามีโรงแรมระดับ 3 และ 4 ดาว ในพัทยา รวมกัน 1,250 ห้อง ซึ่งช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ยอดขายลดลง 10% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และช่วง พ.ค.-มิ.ย. ลดลงไปเกือบ 50% ตอนนี้นักท่องเที่ยว walk in ก็มีแต่คนไทย ยุโรปก็ไม่มา ทัวร์จีนเงียบมาก แต่กลุ่มเรามีรายได้จากธุรกิจอื่นในเครือมาเสริม เราจึงเตรียมเงินสดไว้ เพื่อเป็นโอกาสทองในการซื้อทรัพย์”

ภูเก็ต-ชลบุรีแห่ขายโรงแรม 

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบข้อมูลในเว็บไซต์ DotProperty.co.th พบว่ามีการประกาศขายโรงแรม รีสอร์ต เกสต์เฮาส์ และวิลล่าในจังหวัดภูเก็ตและเมืองพัทยาค่อนข้างมาก โดยข้อมูล ณ วันที่ 24 มิ.ย. จังหวัดภูเก็ตมีการประกาศขาย 83 รายการ มีตั้งแต่ขนาดเล็กราคาไม่เกิน 25 ล้านบาท ไปจนถึงโรงแรม รีสอร์ต ขนาด 346 ยูนิต ราคา 5,800 ล้านบาท ทั้งยังมีรีสอร์ต 4 ดาวที่ระบุขาย 2,200 ล้านบาท บริเวณหาดสุรินทร์ เป็นต้น

โดยพื้นที่ที่มีการประกาศขายมากที่สุดคืออำเภอกะทู้ถึง 47 รายการ ขณะที่พื้นที่พัทยาพบว่ามีการประกาศขายโรงแรม รีสอร์ต เกสต์เฮาส์ และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ จำนวน 51 รายการ (กราฟิกประกอบ)

นายตรีวิท อภิมุขเจริญ รองนายกสมาคมท่องเที่ยวไทยจีนภูเก็ต กล่าวว่า ที่ผ่านมาผู้ประกอบการทัวร์จีนในภูเก็ตมีการปิดตัวไปหลายราย แต่ก็มีเปิดใหม่อีกหลายราย เป็นปกติของการทำธุรกิจ หวังว่ารัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวจะเข้ามาดูแลส่งเสริมการท่องเที่ยวช่วยกันทำให้เกิดความเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้น

ดัชนีเชื่อมั่น Q3 ยังทรงตัว

นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า ในช่วงไตรมาส 2/2562 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการท่องเที่ยวของไทยอยู่ที่ระดับ 100 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าสถานการณ์ท่องเที่ยวค่อนข้างทรงตัวจากปลายปี 2561 และคาดว่าในไตรมาส 2 นี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 9.09 ล้านคน เพิ่มขึ้น 2.48% และเพิ่มเป็น 9.70 ล้านคน ขยายตัว 7% ในช่วงไตรมาส 3/62 และมีจำนวนนักท่องเที่ยวรวมทั้งปีที่ 40.06 ล้านคน หรือขยายตัว4.65% และสร้างรายได้รวมที่ราว 2.13 ล้านล้านบาท หรือขยายตัว 6.02%

ขณะที่ ดร.วัชรพงศ์ รติสุขพิมล อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คาดว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการท่องเที่ยวของไทยในไตรมาส 3/2562 จะอยู่ที่ระดับ 100 ซึ่งเท่ากับไตรมาส 2 ที่ผ่านมา

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.prachachat.net/tourism/news-343922


จำนวนผู้อ่าน: 2087

28 มิถุนายน 2019