ย้ายมหาดไทยไปฝั่งธน ผุด 4 ตึกทำเลฮอตริมเจ้าพระยา

มหาดไทยได้ที่ดินริมเจ้าพระยา - หลังผิดหวังจากการขอใช้ที่ดินของกรมชลประทาน ล่าสุด กระทรวงมหาดไทยได้รับไฟเขียวจากกรมธนารักษ์ให้ใช้ที่ดินราชพัสดุเนื้อที่รวม 18 ไร่เศษ ทำเลถนนเจริญนคร ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อสร้างอาคารที่ทำการกระทรวงมหาดไทยแห่งใหม่ ที่ตั้งแปลงที่ดินอยู่ใกล้วัดเศวตฉัตร ไม่ห่างจาก "ไอคอนสยาม" ทำให้ที่ดินทำเลฝั่งธนฯฮอตขึ้นอีก

มหาดไทยเฮ ! ได้ที่ดินติดริมน้ำเจ้าพระยา เจริญนคร ที่ตั้งกระทรวงแห่งใหม่ กรมโยธาฯเร่งออกแบบ หลังธนารักษ์ไฟเขียวใช้ที่ราชพัสดุ 18 ไร่ ทุ่ม 3 พันล้าน ผุดตึกสูง 20 ชั้น 4 ตึก ท่าเรือ รองรับ 6 กรม ข้าราชการกว่า 5 พันคน ดีเดย์ตอกเข็มปี”63 มท.1 ลุยเอง นำทีมบิ๊กคลองหลอดสำรวจพื้นที่ก่อสร้าง “สะพานจันทน์-เจริญนคร” แจ็กพอตส่อโดนพับเก็บใส่ลิ้นชัก ด้านโบรกเกอร์ชี้อีก 5 ปีกว่าเรียลเอสเตตจะบูม

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า ขณะนี้แผนย้ายที่ตั้งกระทรวงมหาดไทยมีความคืบหน้าไปมาก และได้ที่ดินแปลงใหญ่สำหรับใช้ก่อสร้างอาคารที่ทำการกระทรวงมหาดไทยแห่งใหม่แล้ว ล่าสุด กระทรวงมหาดไทย โดย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้ทำหนังสือลงวันที่ 7 พ.ค. 2562 ถึงนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในขณะนั้น ขอใช้พื้นที่ราชพัสดุ แปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท.1989 แขวงบางลำพู เขตคลองสาน กทม. โฉนดเลขที่ 869,870 และ 3400 เพื่อก่อสร้างกระทรวงมหาดไทยแห่งใหม่

บิ๊กป๊อกนำทีมสำรวจทำเลที่ตั้ง

โดยที่ดินแปลงนี้เดิมสำนักงานสภาผู้แทนราษฎรและสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาได้ทำหนังสือถึงกรมธนารักษ์ ขอใช้เป็นพื้นที่ก่อสร้างอาคารที่พักสวัสดิการข้าราชการรัฐสภา และกรมธนารักษ์ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมกันระหว่าง 3 หน่วยงาน คือ กรมธนารักษ์, สำนักงานสภาผู้แทนราษฎร และสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาไว้แล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อ พล.อ.อนุพงษ์ทำหนังสือมาขอใช้ที่ดินแปลงดังกล่าว นายพรเพชร ในฐานะประธาน สนช. (ปัจจุบันเป็นประธานวุฒิสภา) ไม่ขัดข้อง ทำให้กระบวนการพิจารณาทั้งหมดเสร็จสิ้นภายในวันเดียว

ต่อมา 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา พล.อ.อนุพงษ์ ได้ลงสำรวจพื้นที่ด้วยตนเอง พร้อมคณะประกอบด้วย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมที่ดิน นายชานน วาสิกศิริ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงมหาดไทย ร่วมกับ น.ส.อารียา เพ็งประเสริฐ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขต รักษาราชการแทนผู้อำนวยการเขตคลองสาน และคณะผู้บริหารเขต

ทุ่ม 3 พันล้าน สร้าง 3 ปี

แหล่งข่าวจากกระทรวงมหาดไทยเปิดเผยว่า แผนการก่อสร้างกระทรวงมหาดไทยแห่งใหม่ ปลัดกระทรวงมหาดไทยเห็นชอบแบบแปลนการก่อสร้าง พร้อมเสนอให้ พล.อ.อนุพงษ์เห็นชอบแล้ว และมีแผนจะย้ายกรมที่ดิน กรมการพัฒนาชุมชน กรมการปกครอง กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักงานปลัดกระทรวง ไปยังกระทรวงมหาดไทยแห่งใหม่ เนื้อที่ 18 ไร่ และได้จัดทำแผนของบประมาณในส่วนงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 เป็นงบผูกพัน 3 ปี ตั้งแต่ 2563-2565 ใช้ก่อสร้างทั้งหมด งบทั้งหมด 3,735.5550 ล้านบาท แบ่งเป็นงบปี 2563 จำนวน 747.1110 ล้านบาท ปี 2564 ใช้งบ 1,494.2342 ล้านบาท และปี 2565 1,494.2098 ล้านบาท

ส่วนที่ตั้งกระทรวงมหาดไทยเดิมบนถนนอัษฎางค์นั้น จะรื้ออาคารโดยรอบซึ่งเคยเป็นอาคารของกรมการพัฒนาชุมชนเดิม และอาคารของกรมการปกครอง เพราะบดบังภูมิทัศน์ของวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม คงไว้เฉพาะอาคารศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทยที่ต้องอนุรักษ์ไว้

ธนารักษ์ไฟเขียวใช้ที่ดิน อ.อ.ป.

นายอำนวย ปรีมนวงศ์ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยได้ทำเรื่องขอใช้ที่ราชพัสดุ บริเวณย่านเจริญนคร ใกล้กับศูนย์การค้าไอคอนสยาม ซึ่งเดิมเป็นพื้นที่ขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) ปัจจุบันไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้ว เนื้อที่รวม 18 ไร่ ก่อสร้างเป็นที่ตั้งกระทรวงมหาดไทยแห่งใหม่ โดยกรมธนารักษ์ได้อนุญาตให้ใช้พื้นที่ไปแล้ว เมื่อเดือน มิ.ย. 2562 ที่ผ่านมา

พื้นที่ดังกล่าวมีทางเข้าออกและติดแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นที่ว่างเปล่า ไม่มีอาคาร แต่ทางค่อนข้างแคบ ซึ่งทางกรุงเทพมหานคร (กทม.) จะเข้าไปดูแลเรื่องการปรับปรุงทางเข้าออก โดยผู้ใหญ่ของกระทรวงมหาดไทยลงไปดูพื้นที่แล้ว และค่อนข้างจะเร่งรัดเรื่องนี้ แต่ไม่แน่ใจในรายละเอียดว่าจะย้ายมาเมื่อใด

ผุดตึกสูง 20 ชั้น-ท่าเรือ

สำหรับความคืบหน้าในการออกแบบก่อสร้าง แหล่งข่าวจากกรมโยธาธิการและผังเมืองเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เพิ่งได้รับมอบนโยบายจากกระทรวงมหาดไทยเมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา ให้ออกแบบและประเมินค่าก่อสร้างโครงการทั้งหมด หลังกรมธนารักษ์เซ็นมอบที่ราชพัสดุ 18 ไร่ ซึ่งเป็นที่ดินขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้เดิม ให้ก่อสร้างกระทรวงมหาดไทยแห่งใหม่ สภาพปัจจุบันเป็นพื้นที่โล่ง ด้านหน้าติดถนนเจริญนคร ขนาดกว้าง 30 เมตร ด้านหลังติดแม่น้ำเจ้าพระยา ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ

“ด้วยข้อจำกัดพื้นที่ 18 ไร่ ด้านหน้าติดถนนก็จริงแต่มีหน้าแคบกว่าด้านหลัง ต้องก่อสร้างรองรับข้าราชการ 6 กรม ร่วม 5,000 คน เบื้องต้นจะออกแบบเป็นอาคารสำนักงานสูงประมาณ 20 ชั้น 4 อาคาร ถอยร่นจากแม่น้ำ 45 เมตร มีที่จอดรถ มีการสร้างท่าเรือ ค่าก่อสร้างอาจเกิน 3,000 ล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี ตั้งเป้าเริ่มก่อสร้างภายในปี 2563”

ดับฝัน “สะพานจันทน์-เจริญนคร”

ทั้งนี้ ที่ดินแปลงนี้อยู่ห่างจากศูนย์การค้าไอคอนสยามไปทางด้านใต้ 1-2 กม. ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าบีทีเอสและสายสีทอง ที่กำลังก่อสร้างเฟสแรกสถานีกรุงธนบุรี-สำนักงานเขตคลองสาน จะเปิดบริการในเดือน ก.ย. 2563 ขณะที่โครงข่ายคมนาคมอื่น ๆ ไม่มี นอกจากถนนเจริญนครและการเดินทางทางเรือ

อย่างไรก็ตาม ในอนาคต กทม.มีแผนจะสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณถนนจันทน์ ชื่อโครงการ “สะพานจันทน์-เจริญนคร” ระยะทาง 1.3 กม. วงเงิน 4,000 ล้านบาท มีจุดเริ่มต้น ถ.จันทน์ ซอย 42 ผ่าน ถ.เจริญกรุง ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบรรจบ ถ.เจริญนคร 24 บริเวณที่ดินองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ จุดเดียวกับที่สร้างกระทรวงมหาดไทยแห่งใหม่ จึงมีแนวโน้มที่โครงการนี้จะไม่ได้เดินหน้าก่อสร้าง

สำนักงบฯให้ยื่นของบใน 2 เดือน

ขณะที่นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า มหาดไทยได้ส่งคำของบประมาณปี 2563 เข้ามาแล้ว สำหรับการย้ายกระทรวงไปยังพื้นที่ใหม่ ที่ต้องก่อสร้างอาคารที่ทำการของกระทรวงและกรมต่าง ๆ วงเงินราว 3,000 ล้านบาท อยู่ระหว่างรอแบบก่อสร้างที่ยังไม่แล้วเสร็จ สำนักงบฯจึงให้กลับไปดำเนินการออกแบบให้เสร็จเรียบร้อยก่อนสนอมาใหม่จะพิจารณากรอบงบประมาณให้ แต่ต้องส่งแบบฯที่เสร็จแล้ว พร้อมคำขอมาใหม่ภายในไม่เกิน 2 เดือนนี้ (ก.ค.-ส.ค.) หากไม่ทันต้องรอของบปี 2564

ปรับเป็นอาคารอนุรักษ์

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่า การก่อสร้างกระทรวงมหาดไทยแห่งใหม่จะใช้เวลาเร็วที่สุด 2-3 ปี โดยมีการจัดเตรียมแบบก่อสร้างและวางแผนแม่บทไว้หมดแล้ว การก่อสร้างแบ่งเป็นเฟส ๆ ส่วนบริเวณกระทรวงเดิมริมคลองหลอดจะปรับปรุงพัฒนาเพื่อการท่องเที่ยว เป็นส่วนหนึ่งของเกาะรัตนโกสินทร์ ที่ปัจจุบันอาคารที่มีทำเลที่ตั้งบนเกาะรัตนโกสินทร์อย่างสองฝั่งถนนราชดำเนิน ได้มีการกำหนดผังเมืองและคุมโทนสีอาคารให้เป็นสีเบจแล้ว ซึ่งการปรับปรุงและพัฒนาจะดูว่าเป็นอาคารที่ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานไว้ หรือเป็นลักษณะอาคารทรงคุณค่า ก็จะอนุรักษ์ไว้

เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวรอบกรุงรัตนโกสินทร์และพระบรมมหาราชวังรับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงหัวลำโพง-หลักสอง ที่จะเปิดบริการอย่างเป็นทางการในเดือน ก.ย. 2562 มีสถานีวังบูรพาและสถานีสนามไชย อยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์

โบรกเกอร์ชี้ทำเลยังไม่คึก

ด้านนายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินิกซ์ พร็อพเพอรตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์ คอนซัลแทนซี่ จำกัด เปิดเผยว่า แม้ว่ากระทรวงมหาดไทยจะสร้างศูนย์ราชการใหม่ ทำเลเจริญนครด้านใต้ ทำเลที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ทำเลนี้น่าจะใช้เวลาอีก 5 ปีกว่าจะคึกคัก เนื่องจากไม่มีรถไฟฟ้าพาดผ่าน มีแต่ถนน สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา 2 แห่ง คือสะพานสาทรกับสะพานตากสิน แต่หากโครงการเอเชียทีค 2 ที่จะมาสร้างฝั่งเจริญนครเกิดขึ้นจะช่วยให้คึกคักขึ้นได้

ส่วนโครงการที่อยู่อาศัยมีคอนโดฯทั้งเก่าและเปิดใหม่ ล่าสุดมีของค่ายพฤกษา เสนา และแกรนด์แอสเสท ประมาณ3,000 ยูนิต ราคาเฉลี่ยยูนิตละ 3.5 ล้านบาทด้านราคาที่ดินประมาณ 3 แสนบาทต่อตารางวา

“หน่วยงานราชการที่จะย้ายมาอยู่ย่านนั้น ไม่ได้ช่วยเรื่องทำให้ทำเลโดดเด่นเท่าไหร่ ดูได้จากศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ สนามบินน้ำ ที่ยังมีคอนโดฯเหลือขายอยู่ แต่จะช่วยทำให้บรรยากาศร้านค้าคึกคัก”

ทำเลเจริญนครฝั่งไอคอนสยามจะคึกคักกว่า เนื่องจากจะมีรถไฟฟ้าทำให้การเดินทางสะดวก และในอนาคตจะมีหอชมเมืองกรุงเทพเป็นแลนด์มาร์กใหม่ ดึงดูดนักท่องเที่ยว

พลาดสนามกอล์ฟกรมชลฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า แผนย้ายที่ตั้งกระทรวงมหาดไทยดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2560 ก่อนหน้านี้ได้นำที่ดินราชพัสดุหลายแปลงมาพิจารณาสำหรับใช้เป็นที่ทำการแห่งใหม่ อาทิ ที่ดินเรือนจำคลองเปรม ที่ดินราชพัสดุ คลอง 5 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ที่ดินราชพัสดุ ต.บางปิ้ง จ.สมุทรปราการ ที่ดินราชพัสดุ ย่านพระราม 9 ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และปลายเดือน ก.ย. 2561 ได้ทำหนังสือขอใช้ที่ดินสนามกอล์ฟชลประทาน 100 ไร่ ย่านปากเกร็ด แต่ถูกปฏิเสธจากกระทรวงเกษตรฯ และกรมชลประทาน ล่าสุดจึงได้ที่ดินในทำเลติดริมเจ้าพระยา

คมนาคมย้ายไปบางซื่อ

ส่วนการย้ายกระทรวงคมนาคม แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมกล่าวว่าอยู่ระหว่างเตรียมแผนจะย้ายจากถนนราชดำเนินไปอยู่ย่านพหลโยธิน บนถนนกำแพงเพชร ใกล้สถานีกลางบางซื่อ โดยเช่าที่ดินจากการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) 11 ไร่ ก่อสร้างอาคารสำนักงานแห่งใหม่สูง 30 ชั้น 1 อาคาร รองรับหน่วยงานที่เพิ่มขึ้น

ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการค้นหาและช่วยเหลืออากาศยานและเรือที่ประสบภัย, สำนักงานคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุและอุบัติการณ์ของอากาศยาน และศูนย์ปลอดภัยคมนาคม โดยขอผูกพันงบประมาณจากคณะรัฐมนตรีแล้ววงเงิน 3,710 ล้านบาท แบ่งเป็นปี 2563 จำนวน 741.61 ล้านบาท ปี 2564 จำนวน 1,484.22 ล้านบาท และปี 2565 จำนวน 148.22 ล้านบาท

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.prachachat.net/property/news-347174


จำนวนผู้อ่าน: 2123

09 กรกฎาคม 2019