ภาพข่าวสด
นักธุรกิจตรังผนึกรัฐผลักดันกิจกรรมระดมทุนหนุนตั้ง “กองทุนอนุรักษ์พะยูนและหญ้าทะเล” อย่างยั่งยืน หลังกระแส “พะยูนน้อยมาเรียม” ฟีเวอร์ ทั้งขายสินค้าที่ระลึก จัดงานคอนเสิร์ต รับเงินบริจาค
นายลือพงษ์ อ๋องเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีตรัง (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด เปิดเผยว่า พะยูนถือเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อยู่คู่ทะเลตรังมาอย่างยาวนาน ถือเป็นเอกลักษณ์หนึ่งของจังหวัดตรัง ปัจจุบันมีพะยูนอาศัยอยู่ในทะเลตรังเกือบ 200 ตัว และที่ผ่านมาสถานการณ์พะยูนค่อนข้างวิกฤต หากไม่ได้รับการดูแลอย่างจริงจังมีโอกาสสูญพันธุ์สูงมาก แต่ละปีมีพะยูนตายปีละหลายตัว ส่วนใหญ่มีผลกระทบจากการทำประมงและความเสื่อมโทรมของหญ้าทะเลที่ถือเป็นแหล่งอาหารหลักของพะยูน หากไม่มีหญ้าทะเล ก็ไม่มีพะยูน ดังนั้นการอนุรักษ์พะยูนจะต้องอนุรักษ์แหล่งหญ้าทะเลควบคู่กันไปด้วย ดังนั้นจึงมีแนวคิดในการรวมพลคนตรังรักษ์พะยูนและหญ้าทะเลขึ้น โดยร่วมกับทุกภาคส่วนหามาตรการในการอนุรักษ์พะยูนอย่างจริงจัง เป็นระบบและมีความยั่งยืน ด้วยการจัดตั้งกองทุนอนุรักษ์พะยูนและหญ้าทะเลขึ้น โดยมีกลุ่มนักธุรกิจและภาคส่วนราชการที่เกี่ยวข้องลงมาร่วมมือกันก่อตั้งแล้ว และคาดว่าในอนาคตอันใกล้นี้กองทุนดังกล่าวจะเป็นรูปเป็นร่างและสามารถดำเนินการในการขับเคลื่อนการอนุรักษ์พะยูนและหญ้าทะเลอย่างจริงจังต่อไป
“ที่ผ่านมากองทุนอนุรักษ์พะยูนและหญ้าทะเลไม่เคยมีเป็นเรื่องเป็นราว ได้แค่งบกิจกรรมลาดตระเวน งบฟื้นฟูเป็นครั้งคราว ตามงบประมาณที่ทางราชการและเอกชนสนับสนุน ที่ผ่านมามีแค่แนวความคิด หลังจากกระแสพะยูนน้อย “มาเรียม” ที่ถูกแม่ทิ้งและทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปดูแล จนมีความสนิทสนมใกล้ชิดกับคน และมีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวชมจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง กระทั่งเกิดกระแสข่าวมาเรียมฟีเวอร์โด่งดังไปทั่วประเทศและทั่วโลก”
จากปรากฏการณ์ดังกล่าว ทางหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ได้จุดประกายการจัดตั้งกองทุนอนุรักษ์พะยูนและหญ้าทะเลจังหวัดตรังขึ้น โดยจะมีกิจกรรมจัดหาทุนในรูปแบบต่าง ๆ เช่นจัดงานคอนเสิร์ตเพื่อหารายได้ จัดงานขายสินค้าที่ระลึก สินค้าทั่วไป ตลอดจนรับเงินสนับสนุนจากภาคเอกชนเพื่อเข้ากองทุน ซึ่งทางหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบงได้ปรึกษาหลายฝ่ายเพื่อจัดตั้งกองทุนอนุรักษ์พะยูน”
ดังนั้นจึงมีการจัดแคมเปญ รวมพลคนตรังรักษ์พะยูนและหญ้าทะเลขึ้น อย่างจังหวัดอื่นมีกองทุนสิ่งแวดล้อมเช่นกระบี่ แต่ที่ผ่านมา จ.ตรังไม่มีกลุ่มนักธุรกิจที่คิดเรื่องกองทุนสิ่งแวดล้อม ครั้งนี้ถือเป็นมิติใหม่ในการดำเนินการด้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของ จ.ตรัง
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.prachachat.net/local-economy/news-347442
จำนวนผู้อ่าน: 2073
09 กรกฎาคม 2019