“การบินไทย” กัดฟันฝ่าวิกฤต แจงกลยุทธ์ลดรายจ่าย-เพิ่มรายได้ หลังเจอเศรษฐกิจซบเซา-บาทแข็ง-เทรดวอร์-ปิดน่านฟ้าปากีฯ ซัดแอร์ไลน์อ่วม พร้อมเคราะห์ซ้ำซ่อมฝูงบินล่าช้าทำปริมาณการผลิตฮวบ เผยจะยึดหลักไม่กระทบคุณภาพบริการ ขอกำลังใจคนไทยช่วยสายการบินแห่งชาติพ้นวิกฤต
นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การบินไทยเตรียมปรับกลยุทธ์ลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ หลังเผชิญวิกฤตปัจจัยภายนอก อาทิ บาทแข็ง สงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน เศรษฐกิจโลกซบเซา และการปิดน่านฟ้าของปากีสถาน ทำให้ปริมาณนักท่องเที่ยวและกำลังซื้อของลูกค้าลดลง ประกอบกับความล่าช้าของการซ่อมเครื่องยนต์ของทางผู้ผลิตทำให้ปริมาณการผลิตและจำนวนเครื่องบินที่ให้บริการลูกค้าลดลงซ้ำอีก
สุเมธ ดำรงชัยธรรม
แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ ใช้ทุกมาตรการในการควบคุมต้นทุนจนค่าใช้จ่ายในไตรมาสที่ผ่านมาให้ลดลงต่ำกว่าปีก่อนสำเร็จ แต่ปัจจัยภายนอกต่างๆ ก็ยังส่งผลให้กลุ่มบริษัทฯ มีการขาดทุนสุทธิในไตรมาสที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกับสายการบินอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทฯ ได้ระดมความคิดในกลุ่มผู้บริหารกำหนดแนวทางในการเพิ่มรายได้และลดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอย่างเร่งด่วนที่สุด ดังนี้
1. กลยุทธ์ “SaveTG Co-Creation” ควบคุมค่าใช้จ่ายที่ไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพการให้บริการ โดยบริษัทฯ ได้ประกาศเป็นมาตรการลดค่าใช้จ่าย รวมทั้งให้เปิดพนักงานและผู้โดยสารทุกภาคส่วนระดมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะมายังผู้บริหาร
2. กลยุทธ์ Zero Waste Management โดยจะเริ่มที่ Food Waste ก่อน เพื่อประหยัดและสร้างมูลค่าเพิ่ม (Circular Economy) ให้ทั้งกับองค์กรและประเทศชาติโดยรวม ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มมีการศึกษาร่วมกันกับทาง FoodInnoPolis เพื่อกำหนดแผนงานปฏิบัติแล้ว
3. กลยุทธ์การรุกตลาดใหม่ในไตรมาส 4 ของปี 2562 คือ บินตรงสู่เซนได อีกหนึ่งเมืองใหญ่ที่สวยงามทุกฤดูกาลในภูมิภาคโทโฮคุของญี่ปุ่น
4. กลยุทธ์การเพิ่มรายได้ด้วย Digital Marketing อาทิ การออกโปรโมชั่นผ่านสื่อดิจิทัล เพื่อดึงฐานลูกค้ากลุ่ม Online มากขึ้น โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนหน้าตาและเพิ่มความสะดวกให้ Application Thai Airways สามารถจองบัตรโดยสาร ค้นหาเที่ยวบิน โปรโมชั่นบัตรโดยสาร และนำเสนอสิทธิประโยชน์ รวมถึงได้ปรับปรุงให้แอปฯ สามารถเพิ่มรายได้ โดยการเสนอการขายผลิตภัณฑ์เสริม (Ancillary Product) อาทิ น้ำหนักกระเป๋าสัมภาระ ประกันภัยการเดินทาง รถรับส่งสนามบิน รถเช่า โรงแรม เป็นต้น รวมทั้งเพิ่มภาษาต่างๆ ได้ด้วย
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีโครงการเพิ่มรายได้เสริมอื่นๆ อาทิ โครงการการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ eCommerce ซึ่งบริษัทฯ ได้คัดเลือกผู้จัดจำหน่าย (eCommerce Vendor) ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในด้านการดำเนินธุรกิจกับสายการบินชั้นนำของโลกเรียบร้อยแล้วและคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในเดือนตุลาคม 2562
5. กลยุทธ์ THAI Synergy การบินไทยมีสินค้าและบริการที่สามารถผสานพลังกับพันธมิตร โครงการที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้คือการผสานกับ Café Amazon ในการขยายธุรกิจทั้งในประเทศและภูมิภาคเอเชีย
6. กลยุทธ์ TG Group การบินไทยผนึกไทยสมายล์ เพื่อให้เครือข่ายการบินเชื่อมต่ออย่างเป็นระบบ สะดวกสบายสำหรับผู้โดยสาร รุกตลาดในภูมิภาคอย่างเต็มที่ภายในไตรมาส 4 ของปีนี้ และที่สำคัญคือ ดำเนินการให้สายการบินไทยสมายล์เข้าร่วมเป็น Connecting Partner ของกลุ่มพันธมิตรสายการบินสตาร์อัลไลแอนซ์ได้อย่างสมบูรณ์แบบภายในสิ้นปี 2562 เพื่อช่วยเสริมความเข้มแข็งของเครือข่ายเส้นทางบินในระดับภูมิภาค
“ตั้งแต่ผมเข้ามารับหน้าที่ที่การบินไทย 11 เดือนมาแล้ว ไม่มีวันไหนไม่มีปัญหา เราทั้งคณะกรรมการ บริษัทฯ ฝ่ายบริหาร รวมถึงพนักงานทำงานกันหนักมาก เพราะตระหนักดีว่า นี่คือสายการบินแห่งชาติ ไม่มีปัญหาไหนแก้ได้ง่าย แต่เราพยายามอย่างที่สุด ด้วยกลยุทธ์ที่กล่าวข้างต้น เราเชื่อว่าเราจะนำความมั่นใจกลับมาสู่การบินไทยอีกครั้งหนึ่ง แม้ว่าอาจจะไม่รวดเร็วดั่งใจ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับการสนับสนุนของผู้โดยสารคนไทยที่ยังรักในการบินไทย มาช่วยกันใช้บริการ ช่วยกันแนะนำ ภายใต้แนวคิด #SaveTG ผมและพนักงานทุกคนมั่นใจว่าเป้าหมายทุกอย่างเป็นไปได้แน่นอน” นายสุเมธกล่าว
ทั้งนี้ จากวิกฤตการณ์ต่างๆ แม้ว่าจะเกิดความยากลำบากในการบริหารจัดการภายใน แต่บริษัทฯ ได้เลือกทางที่จะสร้างผลกระทบต่อคุณภาพการบริการให้น้อยที่สุด โดยเชื่อว่ากำลังใจและการสนับสนุนจากคนไทยและผู้รักความเป็นไทยทั้งโลกจะช่วยให้การบินไทยกลับมาบินสมฐานะสายการบินแห่งชาติอีกครั้งหนึ่ง
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.prachachat.net/tourism/news-359908
จำนวนผู้อ่าน: 2086
14 สิงหาคม 2019