ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (20 ส.ค.) ที่ระดับ 30.83 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ไม่เปลี่ยนแปลงจากสิ้นวันทำการก่อนหน้า สำหรับกรอบค่าเงินบาทวันนี้ อยู่ที่ 30.80-30.90 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
“แม้ว่าภาพตลาดการเงินโดยรวมจะอยู่ในโหมด Risk On แต่ไม่ถือเป็นบวกกับสินทรัพย์ในไทยมากนัก สินทรัพย์ปลอดภัยที่เคยได้รับแรงหนุนจากดอกเบี้ยต่ำ เริ่มเจอแรงต้านเมื่อนักลงทุนทยอยขายทำกำไรบอนด์ไทย ขณะที่ในฝั่งสินทรัพย์เสี่ยง หุ้นไทยกลับไม่ได้รับความสนใจ และถูกนักลงทุนต่างชาติเทขายด้วย
ภาวะเช่นนี้จะทำให้เงินบาทซื้อขายในกรอบแคบแคบ แม้บาทจะอ่อนค่า ก็จะถูกกดด้วยแรงขายของผู้ส่งออกที่ระดับบ 30.90-31.00 บาทต่อดอลลาร์ ต้องรอให้ตลาดพลิกไปปิดรับความเสี่ยง (Risk Off) ดอลลาร์จึงจะก็มีโอกาสแข็งค่าขึ้นต่อได้” ดร.จิติพลกล่าว
ทั้งนี้ ในคืนที่ผ่านมา ตลาดการเงินเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น (Risk-On) หลังจากทางการสหรัฐฯ อนุญาตให้บริษัทหัวเว่ยเทคโนโลยีซื้อสินค้าจากบริษัทสหรัฐฯได้อีก 90 วัน นักลงทุนจึงคลายความวิตกกับปัญหาสงครามการค้า นอกจากนี้จีนและเยอรมนีก็มีแนวโน้มที่จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจคลายความกังวลต่อปัญหาเศรษฐกิจโลกลงอีกขั้น
ภาวะตลาดดังกล่าวส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้นทั้งหมด ดัชนี S&P500 FTSE100 และ STOXX50 ปิดบวก 1.2% 1.0% และ 1.2% ตามลำดับ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวบวก 2.0% ปิดที่ระดับ 59.8 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ในทางกลับกัน สินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven assets) เผชิญกับแรงเทขาย หลังเฟดพลิกมุมมอง ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯในปัจจุบันดีเกินกว่าที่เฟดจะต้องลดดอกเบี้ยต่อ บอนด์ยีลด์สหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 5.1bps มาที่ระดับ 1.60% เงินเยนอ่อนค่าลง 0.2% และราคาทองคำดิ่งลง 1.1% สู่ระดับ 1,496 ดอลลาร์ต่อออนซ์
“สำหรับวันนี้ ต้องระวังความเสี่ยงการเมืองในอิตาลี เมื่อนายกรัฐมนตรี Giuseppe Conte ต้องเผชิญกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ (Vote of No-Confidence) จากวุฒิสภาที่อาจนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่ในปีนี้” ดร.จิติพลกล่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.prachachat.net/finance/news-362051
จำนวนผู้อ่าน: 2089
20 สิงหาคม 2019