ควันหลงจากการที่ศาลรัฐธรรมนูญ ยุบ “พรรคอนาคตใหม่” ยังไม่ทันจาง และอดีตพรรคอนาคตใหม่ สตาร์ตอัพ “คณะอนาคตใหม่” เดินเกมนอกสภายังไม่ถึง 60 ชั่วโมง
อดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ที่ยังมีตำแหน่งเป็น “สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร” ยังตกค้างอยู่ในสภา 65 คน ได้แตกตัวออกมาซบพรรคใหม่ – ภูมิใจไทยถึง 9 คน เหลือ ส.ส.ในสภาแค่ 56 คน
เมื่อทั้ง 9 คน ไปนั่งอยู่ฝั่งเดียวกับที่นั่ง ส.ส.พรรคภูมิใจไทย รวมทั้งบางคนยังไปร่วมรับประทานอาหารที่ห้องพรรคภูมิใจไทย พร้อมคว่ำบัตร ส.ส.ที่ติดอยู่บนหน้าอกปิดชื่อตัวเองไว้
ชื่อทั้ง 9 คน ประกอบด้วย 1.นายโชติพิพัฒน์ เตชะโสภนมณี ส.ส.กทม. เขต 23 2.ร.ต.ต.มณฑล โพธิ์คาย ส.ส.กทม เขต 20 3.นายสมเกียรติ ถนอมสินธุ์ ส.ส.กทม. เขต 21 4.นายเอกการ ซื่อทรงธรรม ส.ส.แพร่ เขต 1 5.นายอนาวิล รัตนสถาพร ส.ส.ปทุมธานี เขต 3 6.นายกิตติชัย เรืองสวัสดิ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 1 7.นายฐิตินันท์ แสงนาค ส.ส.ขอนแก่น เขต 1 8.นายวิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ 9.นายสำลี รักสุทธี ส.ส.บัญชีรายชื่อ
ไม่ถึง 24 ชั่วโมง เฟซบุ๊กของ กิตติชัย เรืองสวัสดิ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา 1 ใน 9 คนที่ซบภูมิใจไทยได้โพสต์ชี้แจงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ท่ามกลางการถูก “รุมจวก” จากบรรดาแฟนคลับพรรคอนาคตใหม่ ตอนหนึ่งว่า
“ผมขอน้อมรับ คำติชม คำปรามาส ไว้เพียงแต่ผู้เดียว และผมจะตั้งใจทำหน้าที่ให้ดีที่สุดครับ เพื่อจังหวัดฉะเชิงเทรา #กราบขอโทษทุกๆ ท่านในการตัดสินใจครั้งนี้ ขอขอบคุณในความเข้าใจและไม่เข้าใจ รวมถึงการกระทำที่ทำให้ท่านผิดหวังและไม่ผิดหวัง ซึ่งทุกๆ ท่านสามารถแนะนำ การผลักดันการพัฒนาเมืองฉะเชิงเทรา ได้เหมือนเดิมครับ”
กิตติชัย เรืองสวัสดิ์
“กิตติชัย เรืองสวัสดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดฉะเชิงเทรา พรรค… (กำลังอยู่ในขั้นตอนการสมัคร) ด้วยความเคารพ ด้วยความจริงใจ และด้วยใจ”
ที่ จ.ฉะเชิงเทรา ไม่ต่างกับ จ.แพร่ ปรากฏความเคลื่อนไหว เมื่อมีผู้นำพวงหรีดมาวางไว้ที่หน้ารูปของ นายเอกการ ซื่อทรงธรรม ส.ส.แพร่ เขต 1 ที่หน้าที่ทำการสาขาพรรค และยังติดป้าย “ประชาชนชาวแพร่ที่ถูกทรยศ 72,016 คะแนน ขอไว้อาลัย”…..
อีกด้าน ปฏิบัติการ 9 งูเห่า ย้ายขั้วแบบสายฟ้าแล่บก็ได้รับการตอบสนองแบบทันวัน “ศุภชัย ใจสมุทร” ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิไทย ทำหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 25 ก.พ. เพื่อแจ้งให้ทราบว่ามี ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ 9 คน ได้ขาดจากความเป็นสมาชิกภาพของพรรคอนาคตใหม่ ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ และจำเป็นต้องสังกัดพรรคใหม่ภายใน 60 วัน
จาก 65 เสียง “อดีตอนาคตใหม่” ที่เหลืออยู่ บัดนี้เหลือเพียง 56 คน สวนทางกับ “ภูมิใจไทย” ที่มี ส.ส.มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ที่มี ส.ส.ในมือ จากเดิมมี ส.ส.52 คน กระโดดขึ้นไปเป็น 61 คน
ผลทางการเมือง เท่ากับว่า “ภูมิใจไทย” ได้อัพเกรดอำนาจการต่อรองในบัดดล
การยุบพรรคอนาคตใหม่ อาจสร้างความสะเทือนใจให้กับแฟนนานุแฟนของพรรค และแกนนำอย่าง “ปิยบุตร แสงกนกกุล” อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แต่การที่ ส.ส.ของพรรค 9 คน ชิ่งหนีจากพรรคสับขั้วไปอยู่ฝ่ายรัฐบาลแบบฉับพลัน อาจสะเทือนใจยิ่งกว่า เมื่อเขาโพสต์เฟซบุ๊กระบายความในใจ
“ผมเป็น ส.ส. สมัยแรก เจอนักการเมืองอาวุโสรุ่นพี่ ก็ยกมือไหว้ทักทายให้เกียรติกัน ทั้ง พี่หนู อนุทิน พี่ศักดิ์สยาม พี่สรอรรถ พี่ชาดา พี่บุญลือ สัปดาห์ที่แล้ว หลายคนจากภูมิใจไทย ก็ให้กำลังใจผมเต็มไปหมด แต่สุดท้าย ก็ “ดูด” ส.ส .อนค. ไป ช่วยกันถามหน่อยครับว่าเก่งมาจากไหนได้ไปทีเดียว 9 คน”
ทั้งที่ก่อนหน้านี้คนในพรรคอนาคตใหม่ ประเมินกันว่าอาจมี ส.ส.ผึ้งหนีรัง ไปอยู่รังใหม่แค่ 2-3 คน เท่านั้น
ด้าน “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ปฏิเสธว่า นี่ไม่ใช่การ “ดูด” ส.ส.“ได้พูดคุยกันกับทุกฝ่ายว่าทำงานร่วมกันได้หรือไม่ และเราเปิดโอกาสให้ทุกฝ่าย เพื่อทำงานตอบแทนให้ประชาชน หากมีคนที่มีแนวทางทำงานร่วมกันได้ ไม่เล่นการเมืองอย่างเดียว เข้ามาแล้วช่วยทำงานให้กับประชาชน พรรคภูมิใจไทยยินดีต้อนรับทุกคน”
“หากคนที่สมัครรับแนวทางของเราได้ ขณะที่พรรคภูมิใจไทยรับแนวคิดของเขาได้ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปโน้มน้าว หรือโฆษณาชวนเชื่อให้มาอยู่กับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งมีการคุยกันมากกว่านี้ แต่ทำไมเหลืออยู่แค่นี้ ทั้งนี้ต้องคุยกันก่อนว่าทำงานร่วมกันได้หรือไม่ ยืนยันว่าเราใช้งานเป็นตัวดูดทั้ง 9 คน รวมทั้งโอกาสและวิสัยทัศน์ ทำให้เขาเห็นว่าคนที่ได้ประโยชน์คือประเทศชาติและประชาชน”
แต่อีกด้าน ส.ส.อนาคตใหม่ ที่ไม่คิดตีจากพรรคยามคับขัน แถมยังเอา “คลิปเสียง” มาแฉกลางสภาว่ามีข้อเสนอเป็นเงิน 23 ล้านบาท แลกกับการพลิกขั้วไปอยู่ฝ่ายรัฐบาล
แม้ไม่เปิดเผยผ่านสื่อว่า เป็นเสียงของใคร จากพรรคไหน แต่คลิปเสียงคลิปเดียวกันนี้ที่ส่งผ่านไลน์ต่อๆ กันในหมู่ ส.ส. ได้บอกชื่อครบถ้วน เสร็จสรรพ ชื่ออะไร – พรรคอะไร
“ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โพสต์เฟชบุ๊กส่วนตัวระบุว่า “น้อยคนในประเทศนี้ ทั้งชีวิตจะมีเงิน 23 ล้านบาทได้ ดังนั้น จำนวนเงินที่หอมหวนเช่นนี้ย่อมสามารถชักจูงโน้มน้าวใจคนหลายคนได้ เหตุผลคือผู้ยื่นข้อเสนอต้องการรวบรวม ส.ส. ให้ครบจำนวนหนึ่งเพื่อต่อรองรัฐบาลให้ตนได้ตำแหน่งรัฐมนตรี ผมสงสัยว่าหาก ส.ส. คนใดมีพฤติกรรมเช่นนี้ หากได้เป็นรัฐมนตรี ย่อมต้องการถอนทุนคืน ด้วยภาษีประชาชน”
เป็นชนวนให้ แกนนำในพรรคพลังประชารัฐต้องออกตัวปฏิเสธ “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงษ์” รมว.พลังงาน และฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ทราบข่าวเมื่อคืนว่า มีคลิปเสียงคล้าย ส.ส. ของ พปชร. มีคนส่งมาให้ แต่ยังไม่ได้เปิดฟัง เบื้องต้นยังเป็นเพียงการกล่าวอ้าง ต้องขอไปตรวจสอบก่อนว่า เป็นใคร ยังไง เป็นข่าวจริงหรือไม่ ซึ่งจะจริงหรือไม่นั้นค่อยว่ากัน
“พรรคเราไม่มีนโยบายเรื่องเงิน เรื่องทอง และยังไม่มีการคุยในพรรคเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ถ้าใครจะเข้าพรรคสิ่งสำคัญต้องมีใจที่อยากจะทำงานร่วมกับพรรค เพราะว่าการทำงานในพรรค ไม่เพียงแต่อยากจะเข้ามาเป็นลูกพรรคเท่านั้น แต่ต้องทำงานและเติบโตไปกับพรรค สร้างความมั่นคงกับพรรคต่อไป”
ด้าน “ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกฯ ประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ตอบคำถามนักข่าวถึงเสียงที่ปรากฏในคลิปคล้าย ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ที่ชักชวนให้ชวนไปร่วมงาน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ไม่รู้ ไปถามเขาดูเอง”
ก่อนหน้านี้ “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ “ประชาชาติธุรกิจ” เผยแพร่บทสัมภาษณ์เมื่อ วันที่ 28 ธันวาคม 2562 ถึงสถานการณ์ “งูเห่า” ในฝ่ายค้านเวลานั้นว่า
“เท่าที่ฟังดูก็เริ่มกระจัดกระจาย พรรคอนาคตใหม่ไปคุยกับกลุ่มฝ่ายรัฐบาลทีละ 5 คน 7 คน ไม่รู้คุยอะไรกัน แต่เห็นว่าเริ่มคุยกันแล้ว แต่ผมไม่เกี่ยวข้องกับ 4 งูเห่าของเขานะ เราต้องยอมรับ ก็น่าเสียดาย อย่าว่าแต่อนาคตใหม่ ของเพื่อไทยก็มี ขณะนี้ให้คณะกรรมการตรวจสอบอยู่ เรากำลังพิจารณาว่าจะทำอย่างไร”
การเมืองก็เป็นเช่นนี้
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.prachachat.net/politics/news-425076
จำนวนผู้อ่าน: 2085
26 กุมภาพันธ์ 2020