แอร์เอเชียเตรียมทุ่มงบ 3,500 ล้านบาท อาเซียนยกระดับสู่สายการบินดิจิทัล

แอร์เอเชียเตรียมทุ่มงบ 3,500 ล้านบาท อาเซียนยกระดับสู่สายการบินดิจิทัล ประเดิมอาคารผู้โดยสาร 4 สนามบินชางงี สิงคโปร์ เป็นท่าอากาศยานต้นแบบสายการบินราคาประหยัด

นายโทนี่ เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มสายการบินแอร์เอเชีย เปิดเผยว่าแอร์เอเชียวางแผนใช้งบลงทุน 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 3,500 ล้านบาทเพื่อพัฒนาให้เป็นสายการบินดิจิทัลราคาประหยัดในภูมิภาคอาเซียน อาทิไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย โดยประเดิมแห่งแรกที่สนามบินชางฮี ประเทศสิงคโปร์ ทั้งนี้การที่สายการบินแอร์เอเชียย้ายการให้บริการจากเทอร์มินอล 1 มาอยู่ที่เทอมินอล 4 สนามบินชางฮีถือเป็นก้าวสำคัญของแอร์เอเชียในการยกระดับสู่การเป็นสายการบินดิจิทัล โดยแอร์เอเชียได้เริ่มดำเนินการเข้าสู่กะบวนการดังกล่าวตั้งแต่ขั้นตอนก่อนการบิน ระหว่างการบิน และหลังการบิน เพื่อสร้างประสบการณ์การเดินทางที่ดีให้กับผู้โดยสารทุกท่าน ตัวอย่างเช่น บริการ “ROKKI” หรือ บริการ Wifi บนเครื่อง การซื้อสินค้าออนไลน์ผ่าน ‘Amazon of the Skies’ นิตยสารบนเครื่องบิน Travel 3Sixty รวมไปถึงบริการด้านการเงิน เช่น Big Pay และโปรแกรมสะสมแต้มการบิน เป็นต้น

นอกจากนี้ แอร์เอเชียยังวางแผนที่จะทำงานร่วมกับบริษัท Palantir ในการพัฒนาระบบการเข้าถึงความปลอดภัยสำหรับนักเดินทางในการผ่านขั้นตอนศุลกากรให้รวดเร็ว ที่ท่าอากาศยานต่างๆ ซึ่งจะต้องอาศัยความร่วมมือของอาเซียนในการประสานการทำงานระหว่างหน่วยงานดูแลท่าอากาศยานและหน่วยงานภาครัฐ อีกทั้งจะพัฒนากระบวนการปฏิบัติการ ความปลอดภัย และการพาณิชย์ ของกลุ่มแอร์เอเชียเข้าด้วยกัน โดยใช้การบูรณาการข้อมูลผ่านแพลตฟอร์ม Skywise ที่พัฒนาขึ้นโดยแอร์บัส เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการดำเนินการธุรกิจ และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

“ปัจจุบัน แอร์เอเชียทำงานอย่างใกล้ชิดกับท่าอากาศยานชางงี ในการก้าวเข้าสู่ท่าอากศยานที่ให้บริการผ่านระบบดิจิทัล ซึ่งการพัฒนาดังกล่าวสอดคล้องไปด้วยดีกับโครงสร้างของสายการบินราคาประหยัดที่มุ่งเน้นความประหยัด และความมีประสิทธิภาพในการให้บริการผู้โดยสารรวมถึงยังเป็นการเพิ่มจำนวนผู้โดยสารให้กับท่าอากาศยานชางงีได้อีกด้วย และทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้จากการที่ท่าอากาศยานชางงีเข้าใจการทำงานของสายการบินราคาประหยัด” นายโทนี่ กล่าว

สำหรับสายการบินแอร์เอเชีย ได้ย้ายการให้บริการจากอาคารผู้โดยสาร 1 (เทอมินอล 1) ไปยังอาคารผู้โดยสาร 4 (เทอมินอล 4) ตั้งแต่ 7 พ.ย. 2560 ซึ่งการให้บริการในรูปแบบใหม่ เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการ โดยได้นำเครื่องคิออสเช็คอิน ที่จะช่วยเช็คอิน และพิมพ์ตั๋วโดยสาร พิมพ์ป้ายติดกระป๋า สัมภาระ เครื่องโหลดสัมภาระอัตโนมัติ ช่องทางศุลกากร และการเข้าสู่ประตูขึ้นเครื่องบิน ซึ่งจะใช้เทคโนโลยีในการจดจำใบหน้าของผู้โดยสาร มาให้บริการ

ทั้งนี้การเพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยให้แอร์เอเชียได้รับประโยชน์จากการเติบโตของผู้โดยสาร รวมถึงการที่ท่าอากาศยานได้เตรียมความพร้อมในการเชื่อมต่อการเดินทางเข้าสู่ตัวเมือง ทำให้จะมีผู้โดยสารมาใช้บริการเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นโอกาสให้แอร์เอเชียสามารถที่จะขยายเส้นทางการบิน เพิ่มเส้นทางใหม่ๆ เข้าสู่ประเทศสิงคโปร์ได้มากขึ้นอีกด้วย

สำหรับข้อมูลจากปีที่แล้ว 49% ของผู้โดยสาร ที่เดินทางเข้า-ออกในประเทศสิงคโปร์ เป็นผู้โดยสารที่เดินทางโดยสายการบินราคาประหยัด และกลุ่มสายการบินแอร์เอเชียถือเป็นสายการบินต่างชาติที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ ขนส่งผู้โดยสารจำนวนมากกว่า 1 ใน 8 ของจำนวนผู้โดยสารทั้งหมด และเป็นสายการบินราคาประหยัดที่ใหญ่ที่สุดในเทอมินอล 4

ด้านแอร์เอเชีย สิงคโปร์เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2547 ในรูปแบบของการเป็นฐานปฎิบัติการบิน โดยเริ่มให้บริการในเส้นทางแรกคือ สิงคโปร์-กรุงเทพ วันละ 2 เที่ยวบิน ปัจจุบันสิงคโปร์เป็นฐานปฏิบัติการบินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ให้บริการ 40 เที่ยวบินต่อวัน 280 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ โดยเที่ยวบินที่บินเข้า-ออก ประเทศสิงคโปร์ เป็นเส้นทางที่ให้บริการมาจากแอร์เอเชีย 4 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ไทย และฟิลิปปินส์ เชื่อมโยง 15 จุดหมายปลายทางทั่วอาเซียน

 

 

ที่มาข่าว : posttoday.com


จำนวนผู้อ่าน: 1923

22 พฤศจิกายน 2017