ไฟเขียว…ลูกค้า “นั่งดริงก์” ร้านอาหารคึกคักรับขาขึ้น

คอลัมน์ จับกระแสตลาด

จะเรียกว่าคึกคักขึ้นทันตาเห็นเลยทันทีก็คงไม่ผิดนัก สำหรับบรรดาผู้ประกอบการร้านอาหารที่เริ่มมีลูกค้าทยอยเข้าไปใช้บริการอย่างหนาตาตั้งแต่ช่วงเย็นวันศุกร์ที่ผ่านมา (12 มิถุนายน) และยังต่อเนื่องมาถึงช่วงเย็นย่ำค่ำวันเสาร์-อาทิตย์

หลังจากที่ นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า ารแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) ว่า ศบค. การอนุญาตให้กิจกรรมเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต ให้ภัตตาคาร สวนอาหาร โรงแรม และร้านอาหาร สามารถจำหน่ายสุราและนั่งดื่มในร้านได้ ส่วนสถานบริการ ผับ บาร์ และคาราโอเกะ ยังไม่อนุญาตเปิดบริการ

ถัดมาเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร เพื่อวางมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 รองรับการผ่อนปรนในระยะที่ 4 ซึ่งจะมีผลในวันที่ 15 มิ.ย.เป็นต้นไป โดยในส่วนของการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในภัตตาคาร สวนอาหาร ศูนย์อาหาร โรงแรม ร้านอาหารทั่วไป สามารถทำได้ แต่ต้องไม่เกินเวลา 24.00 น. และไม่อนุญาตให้แสดงดนตรีสด ขณะที่สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ยังไม่อนุญาตเปิดดำเนินการ

ด้าน แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ย้ำว่า ทั้งนี้ ร้านอาหารก็ยังต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 โดยเฉพาะเรื่องของการสวมหน้ากาก จัดจุดล้างมือ ทำความสะอาดบ่อย ๆ การเว้นระยะห่าง และการไม่ให้แออัด โดยจำกัดจำนวนบุคคลภายในร้าน โดยพิจารณาว่าร้านสามารถรองรับคนได้เท่าไร และผู้เข้ารับบริการต้องไม่เกินตามจำนวนที่กำหนดไว้ และต้องลงทะเบียนผ่านแพลตฟอร์มไทยชนะ

อย่างไรก็ตาม ศบค.ยังให้งดกิจกรรมส่งเสริมการขายทุกรูปแบบ เช่น โปรโมชั่นลดราคา ขายพ่วง พนักงานเชียร์เบียร์โฆษณา และให้งดการจำหน่ายและบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในสถานที่หรือบริเวณที่ต้องห้าม ตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 เช่น ชายหาด สวนสาธารณะของทางราชการ ฯลฯ

ปลดล็อก…”ตัวช่วย” ร้านอาหาร”

ธนิวรรณ กุลมงคล” นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การปลดล็อกเฟส 4 ที่อนุญาตให้ลูกค้านั่งดื่มกินเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารได้ จะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ร้านอาหารน่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น แม้ว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เหล้า-เบียร์ จะเป็นสัดส่วนรายได้เพียง 15-20% ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ไม่มากนักเมื่อเทียบกับผับบาร์

นอกจากนี้ ยกเลิกเคอร์ฟิว ที่เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายนนี้ ยังจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยที่เพิ่มขึ้น ร้านอาหารต่าง ๆ สามารถจะขยายเวลาบริการได้นานขึ้น ลูกค้านั่งทานในร้านได้นานขึ้น นอกจากร้านจะมีรายได้เพิ่มแล้ว ขณะเดียวกันก็จะทำให้ซัพพลายเชน หรือธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับร้านอาหารค่อย ๆ ฟื้นตัวดีขึ้น

สอดคล้องกับแหล่งข่าวจากผู้ประกอบการร้านอาหารรายใหญ่รายหนึ่ง ที่แสดงความเห็นหลังจากทราบข่าวว่า ทางการอนุญาตให้ลูกค้าสามารถดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านได้ว่า จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยดึงให้คนออกมาใช้จ่ายเพิ่มได้บ้าง และเบื้องต้นรายได้หรือยอดขายของร้านจะมีเพิ่มขึ้นในระดับหนึ่ง และคงไม่เท่ากับหรือไม่เหมือนเดิมกับก่อนหน้านี้ เนื่องจากยังมีข้อจำกัดทั้งในเรื่องของความกังวลกับโควิด-19 เวลาการให้บริการ รวมถึงการระมัดระวังการจับจ่ายจากผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ชะลอตัว และกำลังซื้อที่ไม่ดีนัก

“การปลดล็อกดังกล่าวจะส่งผลในแง่ของการทำให้ซัพพลายเชนของธุรกิจร้านอาหารและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเริ่มมีการขยับตัว เริ่มมีความเคลื่อนไหว และจะช่วยให้วงจรเศรษฐกิจเริ่มค่อย ๆ กลับมาหมุนได้อีก และคาดว่าแนวโน้มจะดีขึ้นเรื่อย ๆ ตามลำดับ”

เหล้า-เบียร์ ค่อย ๆ ฟื้นตัว

แหล่งข่าวจากบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายใหญ่ แสดงความเห็นว่า การอนุญาตให้ร้านอาหารที่มีใบอนุญาตจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กลับมาขายเหล้าเบียร์ได้ และอนุญาตให้ลูกค้านั่งดื่มกินในร้านได้ สำหรับบริษัทเหล้า-เบียร์ ในแง่ของยอดขายคงเป็นอะไรที่ไม่ได้เกิดขึ้นในทันทีทันใด ประกอบกับยอดขายจากช่องทางดังกล่าวยังถือเป็นสัดส่วนรายได้ที่ไม่มากนัก หรือประมาณ 10-15% เท่านั้น จึงเชื่อว่าทุกคนคงจะยังไม่นำตัวเลขนี้มาใช้ประกอบแผนการผลิต แผนการตลาด ในภาพรวม และจะต้องรอดูสถานการณ์ไปอีกสักระยะจนกว่าจะมั่นใจ

“มาตรการนี้จะช่วยให้บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยโดยรวม ๆ ดูดีขึ้น มีความคึกคักมากขึ้น ที่สำคัญคือ จะเป็นสิ่งที่ช่วยให้ซัพพลายเชนของธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจต่าง ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับร้านอาหารมีแนวโน้มที่ดีขึ้น จากก่อนหน้านี้ที่ซัพพลายเชนสะดุดไปและหลาย ๆ ธุรกิจได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก”

ด้านผู้บริหารระดับสูงบริษัทผู้นำเข้าและจำหน่ายสุราต่างประเทศรายใหญ่ กล่าวในเรื่องนี้ว่า การที่ภาครัฐยังไม่ปลดล็อก สถานบันเทิง ผับบาร์ ย่อมมีผลกระทบกับตลาดเหล้านอกเป็นธรรมดา เนื่องจากช่องทางนี้ถือเป็นช่องทางหลักของสุราต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม หวังว่าหลังจากนี้ไปทางการคงจะพิจารณาปลดล็อกกิจการที่มีความเสี่ยง หรือกิจการที่อยู่ในโซนแดง

“การปลดล็อกในเฟส 4 ดังกล่าวจะเป็นผลในเชิงจิตวิทยาที่กระตุ้นให้คนออกมาใช้จ่ายดื่มกินมากขึ้น ร้านอาหารจะมีรายได้เพิ่มขึ้น เหล้าเบียร์จะมีตัวเลขที่ค่อย ๆ เพิ่มขึ้น แต่ทั้งนี้ก็คงไม่เหมือนกับช่วงก่อนหน้าที่จะมีโควิด-19”

การปลดล็อกเฟส 4 ที่เกิดขึ้น ในทางปฏิบัติอาจจะไม่ทำให้รายได้หรือยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญนัก แต่อีกด้านหนึ่งก็ช่วยให้บรรยากาศโดยรวมดีขึ้น

จากนี้ไป ซัพพลายเชนที่เกี่ยวเนื่องต่าง ๆ จะค่อย ๆ ฟื้นตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น และคาดว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในไม่ช้านี้

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.prachachat.net/marketing/news-479326


จำนวนผู้อ่าน: 1748

19 มิถุนายน 2020