'เอ็มบีเค'เปิดกลยุทธ์ลุย 3 บิ๊กตลาดท่องเที่ยว

‘เอ็ม บี เค’สบช่องลูกค้านักท่องเที่ยวต่างชาติ“ขาขึ้น” เร่งสานต่อนโยบายภาครัฐชูค้าปลีกดันยอดใช้จ่าย เปิดกลยุทธ์ปี 61 ลุยโกย 3 บิ๊กตลาดท่องเที่ยว“จีน-อินเดีย-รัสเซีย” พร้อมจีบเพื่อนบ้าน“ซีแอลเอ็มวี”เพิ่ม เล็งกลุ่มวัยรุ่น-เที่ยวเอง

นางสาวศิรฐา สุขสว่าง ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าปีนี้วางกลยุทธ์ขยายฐานตลาดนักท่องเที่ยวมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งเดินทางด้วยตัวเอง (FIT) เพื่อรักษาการเติบโตต่อเนื่องจากปี 2560 ซึ่งมีชาวต่างชาติมาใช้บริการและชอปปิงในศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ เพิ่มขึ้นกว่า 12.7% และมี 5 อันดับแรกมาจากเยอรมัน, อินเดีย, ฝรั่งเศส, สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย 

ดังนั้นปีนี้จะเพิ่มกลุ่มเป้าหมายไปยังตลาดใหญ่ที่เดินทางเข้าไทยจำนวนมาก ได้แก่ อินเดีย, จีน, รัสเซีย รวมถึงกลุ่มซีแอลเอ็มวี (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม)

ทั้งนี้ ตลาดดังกล่าวเป็นฐานใหญ่ของชาวต่างชาติเดินทางมาไทย โดยเฉพาะจีนครองส่วนแบ่งกว่า 25% ขณะที่อินเดียและรัสเซีย เดินทางเข้ามาราว 1.4 ล้านคน และ 1.3 ล้านคนตามลำดับ (สถิติ ณ วันที่ 25 พ.ย.2560) ขณะที่กลุ่มซีแอลเอ็มวี ตลาดลาว เข้ามากว่า 1.6 ล้านคน ส่วนเวียดนาม และเมียนมา เป็นตลาดดาวรุ่งที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดว่ามีการเดินทางเข้ามาราว 9.6 แสนคน และ 4 แสนคนตามลำดับ

ส่วนลูกค้าในศูนย์ฯ ปัจจุบันมีชาวจีนราว 8.1%, จีน ราว 5.2% และรัสเซียราว 0.5% เท่านั้น ซึ่งยังขยายตัวได้อีกมาก และมองว่าหากทำสำเร็จ จะตอกย้ำตลาดเหล่านี้ยังช่วยส่งเสริมนโยบายของภาครัฐ ในการกระตุ้นตลาดคุณภาพ เพิ่มค่าใช้จ่ายต่อหัวด้วยการส่งเสริมการชอปปิงด้วย

นอกจากตลาดเป้าหมายดังกล่าวยังมีศักยภาพด้านกำลังซื้อสูง เนื่องจากมีสภาพเศรษฐกิจที่ดีต่อเนื่อง ไม่ไกลจากประเทศไทยทำให้เดินทางมาด้วยความถี่มากกว่าหนึ่งครั้งต่อปี ทำให้เข้ามาใช้บริการซ้ำต่อเนื่อง ปัจจุบันศูนย์ฯ พัฒนาบริการพื้นฐานรองรับตลาดมุสลิมพร้อมแล้ว เช่น ร้านอาหารฮาลาล, ห้องละหมาด และทัวริสต์เลาจน์ ให้บริการนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ

สำหรับ 3 กลยุทธ์ที่จะใช้กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวจับจ่ายมากขึ้นนั้น ได้แก่ การมุ่งสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติผ่านสื่อออนไลน์, การประชาสัมพันธ์ไปยังจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมและจุดบริการนักท่องเที่ยวของหน่วยงานต่างๆ เช่น ระบบคมนาคมที่มีนักท่องเที่ยวใช้บริการมาก เป็นต้น, วางระบบสิ่งอำนวยความสะดวก และร้านค้าให้ครอบคลุมความต้องการของนักท่องเที่ยว อาทิ การบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ตฟรี การบริการรับฝากกระเป๋า การเพิ่มจุดชาร์จแบตเตอรี่ เพิ่มเติมจากจุดเด่นด้านความหลากหลายของร้านค้าที่มากกว่า 4,000 ร้านอยู่แล้ว

จากสถิติของศูนย์การค้าฯพบว่ากลุ่มสินค้าและบริการในศูนย์การค้าเอ็มบีเคเซ็นเตอร์ที่นักท่องเที่ยวใช้จ่ายสูงสุด3ลำดับแรกได้แก่เครื่องประดับแฟชั่น,การทำธุรกรรมการเงิน,โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์เทคโนโลยี

ขณะที่การสำรวจพฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่มาชอปปิงพบว่าจะใช้เวลาในกรุงเทพฯประมาณ 4-7วันและทำกิจกรรมยอดนิยม3เรื่องได้แก่ชอปปิง,ท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและใช้บริการสปา,นวดแผนไทย

นางสาวศิรฐา กล่าวด้วยว่าประเมินเศรษฐกิจปี 2561น่าจะมีแนวโน้มสดใสและส่งผลให้ธุรกิจค้าปลีกเติบโตขึ้นโดยเฉพาะตลาดท่องเที่ยวที่น่าจะผลในทิศทางบวกต่อศูนย์ฯเนื่องจากมีสินค้าและบริการที่เน้นความหลากหลายทั้งแบรนด์ไทยและสากลจึงตอบโจทย์ครอบคลุมทุกกลุ่มที่มากรุงเทพฯ

ขอบคุณข่าวจาก : bangkokbiznews.com


จำนวนผู้อ่าน: 2150

16 มกราคม 2018