ศบค. ชงแจก “คนละครึ่ง-ส่วนลดพิเศษ” จูงใจคนฉีดวัคซีน

ศบค. เปิด 11 ประเภทคลัสเตอร์ “เรือนจำ” มากสุด กระจาย 13 จังหวัด “ศรีสะเกษ” ติดเชื้อพุ่ง 105 ราย ที่ประชุม EOC เสนอแผนเร่งรัดฉีดวัคซีน จาก 5 หน่วยงาน สธ. จัดสัปดาห์ฉีดวัคซีน 27 พ.ย.- 5 ธ.ค. ศบค. ชงแจก “คนละครึ่ง-ส่วนลดพิเศษ” จูงใจฉีดวัคซีน

วันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศ ประจำวัน สถานการณ์การติดเชื้อในประเทศวันนี้ ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 พบผู้ป่วยรายใหม่ และเสียชีวิต 45 ราย

ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 พบผู้ป่วยรายใหม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ รวม 6,343 ราย จำแนกเป็นผู้ป่วยในประเทศ 6,143 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 12 ราย จากระบบเฝ้าระวังฯ 5,926 ราย ผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุก 217 ราย ผู้ป่วยภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 188 ราย

ผู้ป่วยสะสม 1,995,890 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) ผู้ป่วยกำลังรักษา 94,163 ราย แบ่งเป็นรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 44,917 ราย โรงพยาบาลสนามและอื่น ๆ 49,244 ราย ป่วยอาการหนัก 1,776 ราย ใส่เครื่องช่วย 417 ราย และเสียชีวิต 45 ราย เสียชีวิตสะสม 19,987 คน เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 20,081 คน

ขณะที่ยอดผู้ป่วยรักษาหายอยู่ที่ 7,663 ราย ทำให้ขณะนี้มีผู้หายป่วยสะสมอยู่ที่ 1,883,083 ราย หายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 อยู่ที่ 1,910,509 ราย

เสียชีวิต 45 ราย กระจาย 27 จังหวัด

สำหรับรายละเอียดผู้เสียชีวิตในวันนี้ จาก กทม. 1 ราย, สมุทรปราการ 2 ราย, สมุทรสาคร 2 ราย, ชัยภูมิ 2 ราย, นครราชสีมา 2 ราย, อุบลราชธานี 2 ราย, เชียงใหม่ 3 ราย, นครสวรรค์ 3 ราย, อุตรดิตถ์ 1 ราย, อุทัยธานี 1 ราย, สงขลา 3 ราย, พัทลุง 2 ราย, ชุมพร 2 ราย, ปัตตานี 2 ราย, ภูเก็ต 1 ราย, สตูล 1 ราย, ยะลา 1 ราย, ตรัง 1 ราย, พังงา 1 ราย, กระบี่  1 ราย, นครศรีธรรมราช 1 ราย, ชลบุรี 2 ราย, ลพบุรี 2 ราย, เพชรบุรี 1 ราย, กาญจนบุรี 1 ราย, ปราจีนบุรี 1 ราย และตราด 1 ราย

เป็นชาย 24 ราย หญิง 21 ราย สัญชาติไทย 43 ราย สัญชาติเมียนมา 2 ราย แบ่งเป็นอายุ 60 ปีขึ้นไป 31 ราย อายุน้อยกว่า 60 ปี มีโรคเรื้อรัง 12 ราย และไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 2 ราย

ส่วนปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรค จาก HT 10 ราย, DM 22 ราย, HPL 11 ราย, โรคอ้วน 4 ราย, โรคไต 8 ราย, และผู้ป่วยติดเตียง 3 ราย โดยปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อยังมาจากการติดเชื้อในพื้นที่ทั้ง 45 คน จากคนรู้จัก 20 ราย, ครอบครัว 6 ราย, อาศัย 19 ราย

นายแพทย์ทวีศิลป์กล่าวว่า จากรายงานจำนวนผู้เสียชีวิต จะพบว่า จำนวนผู้เสียชีวิต ที่มีอายุ 60 ปี และกลุ่มเสียงรวมแล้วถึง 96% และกลุ่มนี้คือกลุ่มที่ติดเชื้อแล้วจึงเสียชีวิต แต่หากย้อนสถิติจะพบว่ากลุ่มเหล่านี้มีการฉีดวัคซีน ในแต่ละพื้นที่ดังนี้

กลุ่ม 608 ต่ำที่สุด 10 จังหวัด

  1. แม่ฮ่องสอน มีจำนวนประชากร อายุ 60 ปีขึ้นไป และบุคคลที่มีโรคประจำตัว 50,385 ราย เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มแรก 22,876 คน คิดเป็นร้อยละ 45.4 เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มแรก 18,040 คน คิดเป็นร้อยละ 36.5
  2. นครนายก มีจำนวนประชากร อายุ 60 ปีขึ้นไป และบุคคลที่มีโรคประจำตัว 82,128 ราย เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มแรก 38,128 คน คิดเป็นร้อยละ 46.3 เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 36,682 คน คิดเป็นร้อยละ 44.5
  3. สุพรรณบุรี มีจำนวนประชากร อายุ 60 ปีขึ้นไป และบุคคลที่มีโรคประจำตัว 247,848 ราย เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มแรก 127,084 คน คิดเป็นร้อยละ 51.3 เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 113,802 คน คิดเป็นร้อยละ 45.9
  4. ราชบุรี มีจำนวนประชากร อายุ 60 ปีขึ้นไป และบุคคลที่มีโรคประจำตัว 234,650 ราย เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มแรก 120,633 คน คิดเป็นร้อยละ 51.4 เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 121,602 คน คิดเป็นร้อยละ 51.8
  5. อ่างทอง มีจำนวนประชากร อายุ 60 ปีขึ้นไป และบุคคลที่มีโรคประจำตัว 89,346 ราย เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มแรก 46,122 คน คิดเป็นร้อยละ 451.6 เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 42,773 คน คิดเป็นร้อยละ 47.9
  6. ขอนแก่น มีจำนวนประชากร อายุ 60 ปีขึ้นไป และบุคคลที่มีโรคประจำตัว 491,029 ราย เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มแรก 260,303 คน คิดเป็นร้อยละ 53.0 เเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 221,644 คน คิดเป็นร้อยละ 45.1
  7. ลพบุรี มีจำนวนประชากร อายุ 60 ปีขึ้นไป และบุคคลที่มีโรคประจำตัว 199,375 ราย เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มแรก 105,973 คน คิดเป็นร้อยละ 53.2เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 100,435 คน คิดเป็นร้อยละ 50.4
  8. กาญจนบุรี มีจำนวนประชากร อายุ 60 ปีขึ้นไป และบุคคลที่มีโรคประจำตัว 194,518 ราย เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มแรก 104,574 คน คิดเป็นร้อยละ 53.8 เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 18,040 คน คิดเป็นร้อยละ 52.3
  9. ปัตตานี มีจำนวนประชากร อายุ 60 ปีขึ้นไป และบุคคลที่มีโรคประจำตัว 134,906 ราย เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มแรก 73,060 คน คิดเป็นร้อยละ 54.2 เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 18,040 คน คิดเป็นร้อยละ 41.0
  10. สระบุรี มีจำนวนประชากร อายุ 60 ปีขึ้นไป และบุคคลที่มีโรคประจำตัว 181,795 ราย เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มแรก 100,046 คน คิดเป็นร้อยละ 55.0 เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 100,046 คน คิดเป็นร้อยละ 52.5

“นี่คือ 10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่สุด ที่เสียชีวิต ขอได้โปรดเอาตัวเลขต่าง ๆ เหล่านี้ไปใช้ประโยชน์ ในจังหวัดของท่านทั้งหลายนะครับ” นพ.ทวีศิลป์ ระบุ

 

ท็อป 10 ป่วยใหม่ “ทรงตัว” หลักร้อย

นายแพทย์ทวีศิลป์ เปิดเผยภาพรวมของการติดเชื้อในวันนี้ว่า ภาพรวมของประเทศขณะนี้ ลดระดับความรุนแรงแรงลงมาอย่างน่าดีใจ แต่หากระดับความรุนแรงลงมาอีกจะดีกว่า ขณะที่ระดับความรุนแรงใน 67 จังหวัด ยังคงทรงตัว ส่วนจังหวัดชายแดนใต้มีระดับการลดตัวบ้าง เช่นเดียวกับในกรุงเทพฯและปริมณฑล อยู่ในระดับที่เริ่มคงที่ สำหรับ 10 จังหวัดติดเชื้อรายใหม่สูงสุดในวันนี้ มีดังนี้

    1. กทม. 790 ราย
    2. สงขลา 462 ราย
    3. นครศรีธรรมราช 428 ราย
    4. เชียงใหม่ 376 ราย
    5. ปัตตานี 318 ราย
    6. สุราษฎร์ธานี 231 ราย
    7. ยะลา 207ราย
    8. นราธิวาส 193 ราย
    9. ชลบุรี 185 ราย
    10. สมุทรปราการ 168 ราย

 

พบ 11 คลัสเตอร์ใหม่ เรือนจำพุ่ง

นายแพทย์ทวีศิลป์ระบุว่า ในการประชุม EOC ของกระทรวงสาธารสุข ศบค ศปก. ในช่วงเช้าที่ผ่านมา มีการประชุมอย่างเข้มข้น มีการสรุปในส่วนของของคลัสเตอร์ใหม่ ซึ่งเป็นชุดข้อมูลที่ต้องการสื่อสารไปยังทุกจังหวัดว่า มีกลุ่มที่มีความเสี่ยง ซึ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์ ในกรุงเทพฯและปริมฑล 6 ราย และต่างจังหวัดอีก 31 ราย

ในเรือนจำ กระจายหลายจังหวัด โดยเฉพาะที่ศรีษะเกษ 105 ราย, นครราชสีมา 29 ราย, สระแก้ว 6 ราย, เพชรบูรณ์ 5 ราย, กทม. 4, ราย, กาญจนบุรี 20 ราย,สมุทรปราการ 5 ราย, ประจวบคีรีขันธ์ 3 ราย, สงขลา 4 ราย, ปัตตานี 3 ราย, เชียงใหม่ 1 ราย, ขอนแก่น 1 ราย นครสวรรค์ 1 ราย

“ต้องยอมรับว่า พื้นที่จำกัดเหล่านี้ มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อ เพราะฉะนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก ทำไมเราจึงต้องห้ามไปในพื้นที่แออัด โดยเฉพาะในเรือนจำ เราไม่สามารถให้เขาอยู่ได้อย่างสะดวกสบายเหมือนที่อยู่ที่บ้านได้ ดังนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก ที่จะเห็นจำนวนผู้ติดเชื้อในตรงนี้ถึง 2 บรรทัดในพื้นที่เดียว จึงเน้นย้ำว่าเรื่องความแออัดเป็นเรื่องสำคัญ”

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า คลัสเตอร์แรงงานประมง จากประจวบคีรีขันธ์ 14 ราย จากแคมป์ก่อสร้าง เชียงใหม่ 20 ราย, อุดรธานี 6 ราย, สระบุรี 8 ราย จากค่าย/ศูนย์ฝึกทหาร-ตำรวจ ชลบุรี 5 ราย จากโรงงาน/สถานประกอบการ เชียงใหม่ 8 ราย, อุดรธานี 5 ราย, สระแก้ว 3 ราย จากตลาด ที่เชียงใหม่ 27 ราย, สระแก้ว 16 ราย, อุดรธานี 11 ราย

รวมไปถึงพิธีกรรมทางศาสนา งานบุญ จากงานทอดกฐิน ที่ยโสธร 6 ราย และงานศพ ที่เชียงใหม่ 8 ราย พะเยา 46 ราย, ศรีสะเกษ 19 ราย จากสถานศึกษา เชียงใหม่ 6 ราย, อุบลราชธานี 6 ราย จาก ชุมชน กาญจนบุรี 13 ราย และจากโรงพยาบาล ลพบุรี 6 ราย

“นำเรียนว่า ทุกพื้นที่มีความเสี่ยง จึงเกิดคำว่า Universal Invention หรือการป้องกันตัวแบบครอบจักรวาล ไปทุกที่ ต้องป้องกันทั้งหมด แต่ละที่แต่ละแห่งมีความเสี่ยงที่เราจะติดโรคได้ทั้งสิ้น ขอให้มีสุขภาพอนามัยของการใส่หน้ากาก ทานอาหารให้ห่างกัน ไม่ให้ละอองฝอยสัมผัสกับคนอื่น ๆ ได้” นายแพทย์ทวีศิลป์ระบุ

ฉีดวัคซีนทะลุ 85 ล้านโดส

  • เข็มที่ 1 จำนวน 169,641 ราย รวมสะสมตั้งแต่ 28 ก.พ. 64 จำนวน 45.3 ล้านราย คิดเป็น 63.0% ของจำนวนประชากร
  • เข็มที่ 2 จำนวน 351,591 ราย รวมสะสมตั้งแต่ 7 มิ.ย. 64 มีจำนวน 36.50 ล้านราย คิดเป็น 51.2% ของจำนวนประชากร
  • เข็มที่ 3 จำนวน 23,942 ราย รวมสะสม 2.7 ล้านราย คิดเป็นวัดส่วน 3.9% ของจำนวนประชากร

นายแพทย์ทวีศิลป์กล่าวว่า ปัญหาในตอนนี้ จากการประชุม EOC กระทรวงสาธารณสุข ตอนนี้ คือ การฉีดวัคซีน เริ่มมีระดับลดลง ซึ่งอาจมีหลายสาเหตุ คนที่อยากฉีด ได้ฉีดไปแล้ว คนที่ยังลังเล ยังไม่ได้ตัดสินใจ คนที่เลือกวัคซีน ยังรอแล้วรออีก แต่ขณะนี้มีวัคซีนเพียงพอ ชนิดของวัคซีนมีให้เลือกมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะแอสตร้าเซนเนก้า+ไฟเซอร์

นายแพทย์กล่าววอีกว่า การปรับสูตรวัคซีนจากแอสตร้าเซนเนก้า + ไฟเซอร์ มีประชาชนเข้ารับการฉีดมากยิ่งขึ้น และอาจจะต้องมีแรงจูงใจในการแจกของรางวัลด้วย

สำหรับข้อเสนอมาตรการเร่งรัดการฉีดวัคซีน จากที่ประชุม EOC กระทรวงสาธารณสุขในช่วงเช้าที่ผ่านมา ตามการรายงานของศบค. ในวันนีั มีดังนี้

  •  กระทรวงสาธารสุข
    • จัดกิจกรรมสัปดาห์แห่งการฉีดวัคซีน 27 พ.ย.- 5 ธ.ค. 2564
    • จัดทีมฉีดวัคซีนเชิงรุก ผู้สูงอายุ ผู่ป่วยติดเตียง และขยายให้กลุ่มต่างด้าว
  • กระทรวงมหาดไทย
    • ค้นหากลุ่มเป้าหมายที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเชิงรุกและนำมาฉีดวัคซีน
  • กระทรวงอุดมศึกษาฯ มหาวิทยาลัย โรงเรียนแพทย์
    • สื่อสาร ทำความเข้าใจ ข้อมูลวัคซีนให้ประชาชนรับทราบ
  • ภาคเอกชน
    • จัดส่วนลดค่าโดยสารรถสาธารณะ ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า
  • ศบค.
    • เสนอออกประกาศเหมือนที่ต่างประเทศ เมื่อไปสถานที่สาธารณะ ต้องแสดงผลการฉีดวัคซีน
    • สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด บริหารจัดการกลุ่มเป้าหมายที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเชิงรุกให้ผู้มาฉีดวัคซีน
    • จูงใจประชาชนฉีดวัคซีน ระดับพื้นที่ : สิ่งของรางวัล ฯลฯ ขณะที่ระดับประเทศ : ของรางวัล คนละครึ่ง ส่วนลดพิเศษ ฯลฯ

ยุโรปติดเชื้อพุ่ง หลักหมื่น!

สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ข้อมูล ณ วันที่ 23 ตุลาคม 2564 เวลา 10.00 น  มียอดผู้ติดเชื้อรวม 254,026,295  ราย อาการรุนแรง 77,491 ราย รักษาหายแล้ว 229,679,935 ราย และเสียชีวิต 5,115,131 ราย

5 อันดับประเทศติดเชื้อสูงสุดในโลก

  • สหรัฐอเมริกา จำนวน 47,916,190 ราย : ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 24,193 ราย เสียชีวิต 126 คน
  • อินเดีย จำนวน 34,437,307 ราย : ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 0 ราย เสียชีวิต 0 คน
  • บราซิล จำนวน 21,957,967 ราย : ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4,129 ราย เสียชีวิต 63 คน
  • สหราชอาณาจักร จำนวน 9,561,099 ราย : ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 36,517 คน เสียชีวิต 180 คน
  • รัสเซีย จำนวน 9,070,674 ราย : ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 38,823 ราย ผู้เสียชีวิต 1219 คน

นายแพทย์ทวีศิลป์ระบุว่า อันดับการติดเชื้อทั่วโลกในวันนี้ มีการปรับขึ้น ปรับลง เล็กน้อยเท่านั้น แต่ไฮไลต์สำคัญในวันนี้คือ พบผู้ป่วยติดเชื้อหลักหมื่น ใน 20 อันดับแรก เช่น สหรัฐอเมริกา ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 24,193 ราย สหราชอาณาจักร ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 36,517 คน รัสเซีย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 38,823 ราย ตุรกี 21,624 ราย และเยอรมนี  29,048 ราย

นายแพทย์ทวีศิลป์ ระบุว่า ประเทศรัสเซียมีผู้เสียชีวิตหลักพัน องค์การอนามัยโลกแสดงความกังวลอย่างมาก ประเทศในกลุ่มยุโรปมีการติดเชื้อจำนวนมาก ทั้งที่เป็นกลุ่มที่ได้รับการฉีดวัคซีนสูงแล้ว พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตว่า อาจเป็นเพราะในช่วงนี้มีการผ่อนปรนมาตรการ รวมถึงมีการเข้าชมกีฬาโดยไม่สวมใส่หน้ากากอนามัย

หากย้อนดูตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ จะพบว่า อันดับของโลกที่เกิดขึ้นในวานนี้ (14 พ.ย.) ใน 15 อันดับแรก จะพบว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่ เป็นประเทศในแถบยุโรป ถึง 11 ประเทศ รวมประเทศรัสเซียคือ

  1. รัสเซีย มีผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 38,823 ราย
  2. สหราชอาณาจักร ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 36,517 ราย
  3. เยอรมนี ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 29,048 ราย
  4. สหรัฐอเมริกา ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 29,048 ราย
  5. ตุรกี ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 21,624 ราย
  6. ยูเครน ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 14,490 ราย
  7. โปแลนด์ ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 14,448 ราย
  8. ฝรั่งเศส ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 12,496 ราย
  9. เนเธอร์แลนด์ ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 12,024  ราย
  10. ออสเตรีย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 11,552ราย
  11. เช็กเกีย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9,199 ราย
  12. เวียดนาม ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8,176 ราย
  13. อิตาลี ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 7,569 ราย
  14. ไทย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 7,079 ราย
  15.  อิหร่าน ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6,143 ราย

เปิดประเทศครบ 2 สัปดาห์ นักท่องเที่ยวติดเชื้อ 56 ราย

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวถึงจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย หลังมีมาตรการเปิดประเทศเมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา ที่เดินทางเข้ามายังราชอาณาจักรไทยรวมทุกท่าอากาศยาน ตั้งแต่วันที่ 1 -14 พฤศจิกายน 2564 ทั้งสิ้น 50,074 ราย ติดเชื้อ 56 ราย คิดเป็นอัตราการติดเชื้อ 0.11%

สำหรับประเภทของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามา คือ Test & Go มาแล้วตรวจ ตรวจแล้วไปเที่ยวได้ทุกจังหวัด ขณะที่นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาใหม่ 4,378 ราย สะสมรวม 36,066 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 3 ราย ติดเชื้อสะสม 27 ราย ถัดมา Sandbox เดินทางเข้ารายใหม่วันนี้ 577 ราย สะสมรวม 11,714 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 1 ราย ติดเชื้อสะสม 20 ราย และ Quarantine รวม 2,049  ราย ติดเชื้อ 9 ราย ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่

จำนวนผู้เดินทางเข้าประเทศไทยทางอากาศ จำแนกตามประเทศต้นทาง 10 ประเทศแรก ตั้งแต่วันที่ 1-14 พฤศจิกายน 2564 (สะสม 50,074 ราย)

  1. ประเทศสหรัฐอเมริกา 7,999 ราย
  2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 7,935 ราย
  3. ประเทศเยอรมนี 5,648 ราย
  4. สหราชอาณาจักร 2,706 ราย
  5. ประเทศญี่ปุ่น 2,530 ราย
  6. ประเทศฝรั่งเศส 1,953 ราย
  7. ประเทศรัสเซีย 1,875 ราย
  8. ประเทศเกาหลีใต้ 1,729 ราย
  9. ประเทศอิสราเอล 1,532 ราย
  10. ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ 1,425 ราย

จากต่างประเทศติดเชื้อ 12 ราย

ส่วนรายละเอียดผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศรวมทั้งสิ้น 12 ราย เป็นนักท่องเที่ยวในโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ 1 ราย จากเยอรมนี 1 ราย  เป็นผู้ป่วยพบเชื้อ โดยมีอาการ ขณะนี้เข้ารับการรักษาตัวในรพ.เอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต

จากประเทศกัมพูชา 3 ราย เป็นผู้ป่วยพบเชื้อ โดยมีอาการ 2 รายและไม่มีอาการ 1 ราย จากประเทศเมียนมา 4 ราย เป็นผู้ป่วยพบเชื้อ โดยไม่มีอาการ ทั้ง 4 ราย และท้ายที่สุดจากประเทศมาเลเซีย 1 ราย เป็นผู้ป่วยพบเชื้อ โดยไม่มีอาการ

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.prachachat.net/general/news-802382


จำนวนผู้อ่าน: 1141

16 พฤศจิกายน 2021