พาณิชย์ปราบผู้โกงตราชั่งรับซื้อหมู พบเสียหาย 40,000 บาทต่อผู้เลี้ยง 1 ราย

พาณิชย์ จับมือ ปคบ.ปราบโกงตราชั่งรับซื้อหมู หลังผู้เลี้ยงรายย่อยร้องและพฤติกรรมฉ้อโกง สร้างความเสียหาย 40,000 บาทต่อผู้เลี้ยง 1 ราย พร้อมตั้งชุดเฉพาะกิจดูแล

วันที่ 9 กันยายน 2565 นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงแนวทางการแก้ไขการโกงน้ำหนักเครื่องชั่งในการรับซื้อสุกร ร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ ปคบ. สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ กรมปศุสัตว์ ที่ร่วมกันการตรวจสอบพฤติกรรมและป้องปรามการรับซื้อหมูของเกษตรกร พบว่ามีการรายงานถึงการโกงตราชั่งในหลายพื้นที่

อาทิ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งล่าสุดช่วงระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคมถึงเดือนกันยายน 2565 ที่ผ่านมา พบการกระทำผิดในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี และได้ดำเนินการเอาผิดกับกลุ่ม จำนวน 15 ราย ทันที เพราะถือว่าสร้างความเดือนร้อนและเอาเปรียบแก่ผู้เลี้ยงสุกร หากพิจารณาเสียหายถึง 30,000-40,000 บาทต่อผู้เลี้ยง 1 ราย

โดยมีพฤติกรรมฉ้อโกงกับผู้เลี้ยงสุกรรายย่อย ในเรื่องของน้ำหนัก ส่งผลทำให้เกษตรกรได้รับความเสียหายโดยพฤติกรรมการฉ้อโกง อาทิ การเปลี่ยนตุ้มถ่วงสำหรับใช้อ่านน้ำหนัก ทำให้น้ำหนักการซื้อผิดไปจากความเป็น ปรับแต่งเครื่องชั่ง กรง ทำให้น้ำหนักหมูของเกษตรกรลดลง หรือมีการเกี่ยว เหนี่ยว ยึด หนุน ปรับแต่ง ซึ่งล้วนเป็นพฤติกรรมผิดปกติทั้งนั้น หากดำเนินการดังกล่าวถือว่ามีความผิดทางกฎหมายและจะดำเนินคดีทันที

“15 รายที่กระทำผิดนั้น มี 1 รายที่ไม่รอลงอาญา ดำเนินคดีจับกุม และมี 9 ราย ดำเนินการปรับ และรอลงอาญา 2 ปี และก็รอพิจารณาคดีในส่วนที่เหลือ”


 

พร้อมกันนี้ภายหลังการหารือทางกรมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีการตั้งชุดเฉพาะกิจพิเศษขึ้นมา เพื่อติดตามดูแลเป็นการเฉพาะ หลังจากมีการระบาดช่วงนี้มีเพิ่มขึ้น เพราะเกษตรกรรายย่อยที่เคยหยุดเลี้ยงจากการระบาดของโรค ASF เริ่มกลับมาเลี้ยงใหม่อีกครั้ง

ในขณะที่สถานการณ์ราคาเนื้อหมูยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงราคาขายปลีกเฉลี่ยอยู่ที่กิโลกรัมละ 190-200 บาท ทำให้เป็นแรงจูงใจของกลุ่มมิจฉาชีพในการล่อลวงเกษตรกร ในขณะที่ราคาหมูหน้าฟาร์มเวลานี้กรมการค้าภายในยังขอความร่วมมือให้ขายอยู่ที่กิโลกรัมละไม่เกิน 100 บาท

อย่างไรก็ตาม ในข้อหากระทำการใด ๆ ที่ทำให้เครื่องชั่งแสดงค่าน้ำหนักเอาเปรียบประชาชนและใช้เครื่องชั่งที่ผิดอัตราเพื่อเอาเปรียบทางการค้า เป็นความผิดตามมาตรา 75 และมาตรา 79 แห่ง พ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 มีอัตราโทษจำคุก 3 ปี และปรับ 120,000 บาท และเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 270 มีโทษจำคุก 3 ปี หรือปรับ 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

และขอให้เกษตรกรระมัดระวังและสังเกตพฤติกรรมการชั่งน้ำหนักของผู้รับซื้อ ถ้าพบเห็นการเอารัดเอาเปรียบหรือสงสัยว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถแจ้งที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือศูนย์ชั่งตวงวัดและสำนักงานสาขาชั่งตวงวัดทั่วประเทศ หรือ 1135 ของ ปคบ.ได้ และขอเตือนพ่อค้าแม่ค้าที่มีพฤติกรรมใช้เครื่องชั่งตวงวัดที่ไม่ถูกต้องเอาเปรียบประชาชนหรือเกษตรกร หากตรวจพบการกระทำผิดจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ รองผู้บังคับการ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ผบก.ปคบ.) กล่าว ย้ำว่า สำหรับพฤติกรรมผู้กระทำผิด จะมีการแบ่งหน้าที่กันทำงาน และสำรวจล่วงหน้า จนเหลือเฉพาะผู้สูงอายุอยู่บ้าน โดยจะนัดหมายวันเข้าซื้อ เสนอราคาให้สูงกว่าปกติกิโลกรัมละ 5-10 บาท แต่จะผิดนัดเวลา เพื่อไม่ให้มีคนเยอะมาช่วยกันตรวจสอบการขาย โดยให้ความสบายใจใช้เครื่องชั่งของเกษตรกรเอง แต่เวลาชั่ง จะมีหลายวิธีโกง อาทิ เหยียบตราชั่งให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้กำลังเฝ้าติดตามในหลายพื้นที่

 

ส่วนสถานการณ์ราคาหมูเป็นหน้าฟาร์ม ยังคงได้รับความร่วมมือจากผู้เลี้ยง ตรึงไว้ไม่เกินกิโลกรัมละ 100 บาท และราคาปลายทางโดยเฉพาะในห้างก็เริ่มปรับลดบ้างแล้ว

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.prachachat.net/economy/news-1043410


จำนวนผู้อ่าน: 1307

09 กันยายน 2022