“พาณิชย์” เปิดตัวโครงการ “อาหารไทยต้อง Thai SELECT” รองรับนโยบาย “ครัวไทยสู่ครัวโลก” พร้อมเชิญชวนนักท่องเที่ยวชิมรสอาหารไทยตามมาตรฐานไทยแท้
วันที่ 1 สิงหาคม นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดกิจกรรมเปิด “โครงการอาหารไทยต้อง Thai SELECT” ซึ่งเป็นการสร้างมาตรฐานให้กับร้านอาหารไทยภายในประเทศ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการบริโภคอาหารไทย ยกระดับร้านอาหารไทยและคุณภาพของผลิตภัณฑ์อาหารไทย เอาใจผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ที่ต้องการรับประทานอาหารไทยแท้ๆ สามารถมองหาตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ก่อนเลือกร้านอาหารได้
ภายในงานประกอบด้วย 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่ 1) ชมและชิม Authentic Thai Cuisine on Runway เป็นการนำเสนออาหาร 12 เมนู จากร้านอาหารที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT อาทิ ร้านบ้านสุริยาศัย (กรุงเทพฯ) ร้านทับขวัญ รีสอร์ท แอนด์ สปา (นนทบุรี) ร้านสวนเกษตรอินทรีย์บ้านวสุนธารา แอนด์ โฮมสเตย์ (เชียงใหม่) ร้านแซบนัวครัวอิสาน (ขอนแก่น) ร้านวิวยอ (พัทลุง) ร้านครัวเข้าท่า (ตราด) เป็นต้น 2) ชิมและชมสาธิตการทำอาหารที่มีส่วนผสมจากวัตถุดิบของไทยทั้งหมด โดยเชฟชุมพล แจ้งไพร และ ม.ล.ภาสันต์ สวัสดิวัตน์ Food Celebrity ให้คำวิจารณ์พร้อมเล่าเกร็ดความรู้เกี่ยวกับการประกอบอาหารไทย และ 3) Showcase “Signature Menu ที่เป็นที่สุดจากร้านอาหาร Thai SELECT” ชิมเมนูต้นตำรับพร้อมพูดคุยกับเชฟและทีมงานของร้านอาหารฯ
รมว.พาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์มีนโยบายสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศไปสู่ภาคบริการมากขึ้น รวมทั้ง ให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบาย “ครัวไทยสู่ครัวโลก” มาอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาได้มีการส่งเสริมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารไทยให้ใส่ใจในด้านการบริการ รสชาติ และความมีคุณภาพ โดยได้กำหนดให้มีตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ขึ้น เพื่อสร้างการจดจำและเป็นสัญลักษณ์ที่การันตีถึงคุณภาพมาตรฐานของอาหารไทย จึงได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งเสริมพัฒนาและขับเคลื่อนธุรกิจบริการไทยให้มีความแข็งแกร่ง โดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหารไทยที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก และต่อยอดตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ซึ่งใช้รับรองมาตรฐานคุณภาพร้านอาหารไทยในต่างประเทศ ที่ได้รับความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคในต่างประเทศกว่า 19 ปี จนถึงปัจจุบันมีร้านอาหาร Thai SELECT ในต่างประเทศจำนวนกว่า 1,300 ร้าน กระจายอยู่ในประเทศต่างๆ ทั้ง อเมริกา ยุโรป เอเชีย และ แอฟริกา เช่น สหรัฐอเมริกา : ร้าน Nahm Thai Cusine, Arun’s Thai Restaurant, Chat Thai สหราชอาณาจักร : ร้าน Patara Fine Thai Cusine ฝรั่งเศส : ร้าน Blue Elephant เป็นต้น
ทั้งนี้ ตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ในประเทศไทย แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ 1) Thai SELECT PREMIUM (ได้รับคะแนนการประเมิน 90 คะแนนขึ้นไป) 2) Thai SELECT (ได้รับคะแนนจากการประเมิน 75 – 89 คะแนน) และ 3) Thai SELECT UNIQUE (ร้านอาหารไทยที่มีรายการอาหารที่เป็นอัตลักษณ์ท้องถิ่น หรืออาหารประจำถิ่น เมื่อผ่านเกณฑ์การประเมินจากคณะกรรมการฯ แล้วจะได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT UNIQUE ทำให้ทราบว่าร้านอาหารไทยนี้ นอกจากจะเป็นร้านอาหารที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามมาตรฐาน Thai SELECT แล้ว ยังมีรายการอาหารประจำถิ่นอยู่ด้วย)
สำหรับเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกเพื่อได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ประกอบด้วย 1) รสชาติอาหาร 30 คะแนน 2) วัตถุดิบ 20 คะแนน 3) สุขอนามัย (Food Safety) 20 คะแนน 4) รายการอาหาร 10 คะแนน 5) การตกแต่งร้านภายนอก/ภายในและบรรยากาศร้าน 10 คะแนน และ 6) การบริการ 10 คะแนน ทั้งนี้ ร้านอาหารไทยที่ติดตราสัญลักษณ์ Thai SELECT จะต้องเป็นร้านอาหารที่มีรายการอาหารไทยไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของรายการอาหารทั้งหมด มีมาตรฐานวิธีการปรุงตามแบบฉบับอาหารไทย ใช้วัตถุดิบและเครื่องปรุงอาหารของไทย รวมถึงมีการตกแต่งบรรยากาศร้านที่มีกลิ่นไอของความเป็นไทย ทำให้ผู้บริโภคนอกจากจะได้รับความอร่อยจากอาหารไทยแท้ๆ แล้ว ยังจะได้ดื่มด่ำบรรยากาศความเป็นไทยจากการตกแต่งร้านอีกด้วย
ทั้งนี้ ตราสัญลักษณ์ Thai SELECT เป็นการบ่งชี้ว่าร้านอาหารสามารถปรุงอาหารได้ตามมาตรฐานอาหารไทย ตามแบบฉบับวิธีการปรุงอาหารไทย ใช้วัตถุดิบและเครื่องปรุงอาหารไทย แต่ไม่ใช่การรับรอง (Certify) มาตรฐานสถานประกอบการ เนื่องจากมีหน่วยงานของสาธารณสุขดำเนินการอยู่แล้ว
โดยขณะนี้มีร้านอาหารไทยที่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการแล้ว จำนวน 500 ร้าน ซึ่งร้านอาหารไทยที่สนใจสมัครเข้ารับการประเมินเพื่อรับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ติดต่อได้ที่ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ หรือ e-Mail : Thaiselectdbd@gmail.com, Facebook : Thaiselectthailand หรือ กองธุรกิจบริการ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โทรศัพท์ 0 2547 5962
ที่มา : https://www.prachachat.net/economy/news-198312
Person read: 2332
02 August 2018