“ฟู้ดดีลิเวอรี่” จีนแข่งดุ “อาลีบาบา” ทุ่มไม่อั้นชิงตลาด 3 หมื่นล.

ตลาดออนไลน์ฟู้ดดีลิเวอรี่ของจีนมูลค่ากว่า 2 แสนล้านหยวนหรือประมาณ 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐกำลังร้อนระอุ หลังยักษ์อีคอมเมิร์ซ “อาลีบาบา” ตัดสินใจเปิดศึกกับ “เทนเซนต์” ยักษ์อีกรายในวงการไอที ด้วยการอัดฉีดเม็ดเงินลงทุนให้กับ “ไอ้เหลอหม่า” (Ele.me) บริษัทในเครือซึ่งเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มส่งอาหาร เพื่อท้าชนกับผู้นำตลาดอย่าง “เม่ยถวนหว่าง” (Meituan-Dianping) ของเทนเซนต์ หวังชิงตำแหน่งเบอร์ 1 ของตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตสูงนี้

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า อาลีบาบา ประกาศแผนลงทุน 450 ล้านเหรียญสหรัฐภายในช่วงเดือน ส.ค.-ต.ค.นี้ เพื่อช่วยผลักดันธุรกิจแพลตฟอร์มส่งอาหาร “ไอ้เล่อหม่า” ซึ่งบริษัทซื้อมาด้วยมูลค่า 9.5 พันล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเดือน เม.ย. ทั้งการขึ้นค่าจ้างพนักงานส่งอาหาร ขยายพันธมิตรร้านอาหาร รวมถึงเพิ่มบริการใหม่ ๆ อย่างการส่งด่วนภายใน 60 นาทีหรือ 24 ชั่วโมง เพื่อดึงดูดลูกค้าและชิงส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกันเตรียมเชื่อมบริการส่งอาหารนี้เข้ากับแพลตฟอร์มอื่น ๆ ของตนทั้งอีคอมเมิร์ซและบันเทิง พร้อมจัดโปรโมชั่นร่วมกัน เพื่อขยายฐานลูกค้าให้มากที่สุด

นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวว่า ไอ้เล่อหม่าพยายามระดมทุนจากนักลงทุนอิสระอีกกว่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ

“ฮัว ไหล” ซีอีโอของไอ้เหลอหม่า กล่าวว่า ตลาดบริการส่งอาหารของจีนนั้น แม้จะอยู่ในระยะเริ่มต้น แต่มีโอกาสเติบโตสูง และด้วยเม็ดเงินจำนวนนี้ รวมถึงการอัพเกรดด้านต่าง ๆ บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถเก็บส่วนแบ่งตลาดเพิ่มจาก 39.5% ในปัจจุบันเป็นมากกว่า 50% แซงหน้าเม่ยถวนหว่างที่ครองส่วนแบ่ง 46.1% ในระยะสั้นถึงระยะกลางแน่นอน

“ตลาดบริการส่งอาหารมีความสำคัญมาก ดังนั้นเราพร้อมลงทุนแบบไม่อั้นเพื่อครองตำแหน่งเจ้าตลาดให้ได้”

ด้าน “เม่ยถวนหว่าง” นั้นยังคงแสดงความมั่นใจ โดยโฆษกของบริษัทระบุถึงการรับมือการแข่งขันครั้งนี้ว่า ที่ผ่านมาบริษัทสามารถรับมือคู่แข่งได้เป็นอย่างดีจนสามารถครองตำแหน่งผู้นำตลาดได้ในปัจจุบัน สะท้อนจากตัวเลขส่วนแบ่งตลาดซึ่งเพิ่มจาก 31.7% ในปี 2558 เป็น 59.1% เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้แม้เม่ยถวนหว่างจะไม่มีเม็ดเงินอัดฉีดจากเทนเซนต์ แต่อยู่ระหว่างกระบวนการเข้าเสนอขายหุ้นตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเมื่อเดือน มิ.ย. หวังระดมทุน 6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐสำหรับขยายธุรกิจ

ส่วนบรรดานักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า การทุ่มทุนของอาลีบาบาน่าจะส่งผลกระทบกับเม่ยถวนหว่างแน่นอน เพราะธรรมชาติของธุรกิจส่งอาหารนั้นไม่มีลอยัลตี้หรือความจงรักภักดีในแบรนด์อยู่เลย ผู้บริโภคส่วนใหญ่พร้อมเปลี่ยนใจไปใช้บริการกับรายที่ถูกกว่าเสมอ ซึ่งที่ผ่านมาทั้งไอ้เล่อหม่าและเม่ยถวนหว่างต่างระดมโปรโมชั่นลดราคาเพื่อดึงลูกค้าเข้ามาใช้บริการจนขาดทุนหนักทั้ง 2 ฝ่าย ดังนั้นหากไอ้เหลอหม่านำเม็ดเงินของอาลีบาบามาจัดโปรโมชั่นจะทำให้สามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดได้อย่างน้อยในระยะเวลาสั้น ๆ

อย่างไรก็ตาม เดิมพันของการแข่งขันนี้ไม่ได้มีเฉพาะตำแหน่งเจ้าตลาดบริการส่งอาหาร แต่ยังรวมไปถึงธุรกิจออนไลน์เพย์เมนต์อีกด้วย เพราะแต่ละรายต่างใช้ออนไลน์เพย์เมนต์จากสปอนเซอร์หลักของตนเอง เช่น อาลีเพย์และเม่ยถวนซีฝู

ดังนั้นผู้นำตลาดจะสามารถกวาดฐานผู้ใช้งานได้ถึง 2 ธุรกิจ

“เสียง ยี่” หัวหน้าฝ่ายที่ปรึกษาธุรกิจ บริษัท ไอมีเดียรีเสิร์ช ให้ความเห็นว่า ปัจจุบันในตลาดบริการส่งอาหารของจีนนั้น ผู้เล่นที่จ่ายเยอะกว่าจะเป็นผู้ชนะ เพราะผู้บริโภคจะแห่กันไปใช้บริการที่ให้ราคาดีที่สุดเสมอ

ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงความดุเดือดของการแข่งขันในตลาดบริการส่งอาหารของแดนมังกร ที่ผู้เล่นรายใหญ่พร้อมทุ่มงบฯแบบไม่อั้น

ที่มา : https://www.prachachat.net/marketing/news-200898


จำนวนผู้อ่าน: 2075

08 สิงหาคม 2018