โดยการประชุมครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกหลังจากที่ไทยและลาวได้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างกัน เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2559 ณ กรุงเทพมหานคร โดยมี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงาน และนายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนและประธานร่วมฝ่ายไทย และ ดร.คำแพง ไซสมแพง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมแห่ง สปป. ลาว และนายลีปาว หยาง ปลัดกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมแห่ง สปป.ลาว เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนและประธานร่วมฝ่ายลาว ในการประชุมระดับรัฐมนตรีและการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส ตามลำดับ
ทั้งนั้น ที่ประชุมได้ทบทวนผลการดำเนินงานร่วมกันในช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมา โดยมีกิจกรรมในด้านต่างๆ ดังนี้
1) ด้านการพัฒนาฝีมือแรงงาน รัฐบาลไทยได้ให้การสนับสนุนกิจกรรมการฝึกอบรมให้กับบุคลากรภาครัฐของ สปป.ลาว ในสาขาการบริหารจัดการ งานช่างอุตสาหกรรม การท่องเที่ยวและการบริการ รวมถึงเทคโนโลยีสารสนเทศ ณ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานนานาชาติเชียงแสน จำนวน 662 คน ในปีงบประมาณ 2561 และในปี 2562 มีแผนฝึกอบรมให้บุคลากรภาครัฐของ สปป.ลาว อีกจำนวน 700 คน
2) ด้านการจ้างงาน รัฐบาลไทยได้ดำเนินการจัดระบบแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ (เมียนมา กัมพูชา ลาว) สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี และได้จัดตั้งศูนย์แรกรับเข้าทำงานและสิ้นสุดการจ้างจังหวัดหนองคาย และมุกดาหาร เพื่อเป็นสถานที่อบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการทำงานและการใช้ชีวิตในเมืองไทยแก่แรงงานต่างด้าว และทำหน้าที่ตรวจสอบ/ คัดกรองแรงงานต่างด้าวก่อนอนุญาตให้เดินทางเข้ามาทำงานในไทย รวมถึงเป็นจุดพักรอแรงงานต่างด้าวเดินทางกลับประเทศ และเป็นจุดดำเนินการประสานงานระหว่างนายจ้างและแรงงานต่างด้าวด้วย ซึ่งจากข้อมูล ณ เดือนตุลาคม 2561 – มกราคม 2562 มีแรงงานสัญชาติลาวเข้ารับการอบรมที่ศูนย์แรกรับฯ ทั้ง 2 แห่ง รวม 23,273 คน
3) ด้านการคุ้มครองแรงงาน ในช่วงปี 2560 – 2561 รัฐบาลไทยได้ให้ความช่วยเหลือติดตามสิทธิประโยชน์กับแรงงานสัญชาติลาวที่ทำงานในประเทศไทยกรณีค่าจ้าง ค่าชดเชย และค่าล่วงเวลา จำนวน 154 คน คิดเป็นเงินที่ได้รับจำนวน 504,588.25 บาท
และ 4) ด้านการประกันสังคม สำนักงานประกันสังคมของไทย และองค์การประกันสังคมแห่งชาติลาว มีการเจรจาหารือร่วมกันในเรื่องการจัดทำข้อตกลงการจ่ายบำเหน็จชราภาพ
นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้ร่วมกันจัดทำแผนดำเนินงานระยะ 3 ปีข้างหน้า (ปี 2562 – 2565) ซึ่งประกอบด้วยการจัดประชุมเชิงวิชาการ การฝึกอบรม การคุ้มครองและติดตามสิทธิประโยชน์ให้กับแรงงานที่ทำงานในประเทศไทย และงานประกันสังคม รวมถึงฝ่ายไทยได้เสนอให้ฝ่ายลาวปรับเพิ่มข้อความในบันทึกความเข้าใจฯ เกี่ยวกับการจ้างงานระยะสั้นในภาคเกษตร ให้มีเงื่อนไขการจ้างงานน้อยกว่า 2 ปี และให้มีการตรวจสุขภาพและประวัติอาชญากรรมของแรงงานสัญชาติลาว ณ สปป. ลาว ก่อนเดินทางเข้ามาทำงานในประเทศไทยรวมถึงให้ทั้งสองฝ่ายร่วมกันผลักดันให้มีการแก้ไขปัญหาการเดินทางเข้ามาของแรงงานที่มีบัตรผ่านแดน หรือบัตรอื่นใดในทำนองเดียวกัน เพื่อทำงานเป็นการชั่วคราว ในช่วงระยะเวลาหรือตามฤดูกาลและในท้องที่ที่กำหนด
อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีแรงงานสัญชาติลาวทำงานอยู่ในประเทศไทย (ข้อมูล ม.ค.62) จำนวนทั้งสิ้น 286,461 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานประเภททั่วไป จำนวน 285,975 คน แรงงานประเภทฝีมือ 290 คน และชนกลุ่มน้อย 196 คน ซึ่งการประชุมด้านแรงงานไทย-ลาว ในครั้งนี้จะเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเพื่อนบ้านเพื่อต่อยอดไปสู่การพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานอย่างยั่งยืนต่อไป
สำหรับการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านแรงงาน และการประชุมระดับรัฐมนตรีแรงงานไทย-ลาว ในครั้งนี้จัดขึ้นตามข้อกำหนดในเรื่องการดำเนินงานตามบันทึกความเข้าใจฯ ที่กำหนดให้ “คู่ภาคีดำเนินการจัดประชุมเพื่อติดตามการปฏิบัติตามบันทึกความเข้าใจฯเป็นระยะตามความเหมาะสม โดยหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ” ซึ่งการประชุมครั้งต่อไปฝ่ายลาวจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมที่ สปป. ลาวต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.prachachat.net/economy/news-292980
Person read: 2498
22 February 2019