‘พีทีจี’ตั้งเป้ามีปั๊ม 4 พันแห่ง แซงทุกค่ายในปี 62-ซื้อ‘คอฟฟี่เวิลด์’เจาะตลาดบน

พีทีจีตั้งเป้าขยายสถานีบริการนํ้ามันเพิ่มเป็น 4 พันแห่ง ขึ้นแท่นมีจำนวนปั๊มนํ้ามันมากสุดอันดับ 1 ภายในปี 2562 พร้อมขยายร้านกาแฟพันธุ์ไทย เพิ่มเป็น 700-800 แห่ง ส่วนการเข้าซื้อคอฟฟี่เวิลด์เน้นการขายตลาดบน เพิ่มโอกาสการขยายนอกพื้นที่ปั๊ม

การแข่งขันของธุรกิจค้าปลีกนํ้ามันนับว่ารุนแรงมากยิ่งขึ้น เมื่อระดับราคานํ้ามันในตลาดโลกยังอยู่ในช่วงขาลง ส่งผลให้ผู้บริโภคหันมาใช้นํ้ามันเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ค่ายบรรดาผู้ค้านํ้ามันไม่ว่าจะเป็นรายเล็กหรือรายใหญ่ต่างขยับตัว ที่จะช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาด ไม่เพียงแค่ธุรกิจนํ้ามันแต่ยังรวมถึงธุรกิจนอกเหนือนํ้ามัน(นอนออยล์)

ล่าสุดเห็นได้จากบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือพีทีจี ประกาศแผนที่จะลงทุนขยายสถานีบริการนํ้ามันเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวหรือตั้งเป้าหมายให้ครบ 4 พันแห่ง ภายในปี 2562 ซึ่งจะส่งผลให้พีทีจีขึ้นเป็นผู้นำของผู้ค้านํ้ามันที่มีจำนวนปั๊มนํ้ามันมากที่สุดในประเทศ

นอกจากนี้ ได้ประกาศเข้าซื้อหุ้นบริษัท จีเอฟเอ คอร์ปอ เรชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด หรือจีเอฟเอ ในสัดส่วน 99.99% ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหาร-เครื่องดื่มหลากหลายแบรนด์ อาทิ ร้านกาแฟคอฟฟี่ เวิลด์, คอฟฟี่ เวิลด์ เรสเตอรองต์, ร้านไอศกรีม ครีม แอนด์ ฟัดจ์, ร้านแซนด์วิช นิวยอร์ก ฟิฟท์ อเวนิว เดลี่ และร้านอาหารไทย ไทย เชฟ เอ็กซ์เพรส ที่มีรวม 130 สาขา ทั้งในและต่างประเทศ ด้วยงบประมาณ 205 ล้านบาท ครอบคลุมทั้งแบรนด์และสินทรัพย์ทั้งหมดของจีเอฟเอ ถือเป็นการหารายได้จากธุรกิจนอนออยล์อีกทางหนึ่งด้วย

นายรังสรรค์ พวงปราง เลขานุการ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือพีทีจี เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า บริษัทมีแผนที่จะขยายสถานีบริการนํ้ามันพีทีเพิ่มขึ้นเป็น 4 พันแห่งภายในปี 2562 จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.56 พันแห่ง ส่วนใหญ่ยังเน้นพื้นที่บนถนนสายรอง ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันตกและภาคตะวันออก โดยในสิ้นปีนี้ตั้งเป้าขยายเพิ่มเป็น 1.8 พันแห่ง และเพิ่มเป็น 2.2 พันแห่งภายในปี 2562

“บริษัทตั้งเป้าขยายสถานีบริการนํ้ามันพีทีเพิ่มขึ้น โดยครอบคลุมถนนสายรองทุกอำเภอ ซึ่งกลยุทธ์การขยายสถานีบริการจะใช้วิธีเช่าที่ดินจากสถานีบริการนํ้ามันที่หมดสัญญาแล้วไม่ดำเนินการต่อ ส่งผลให้จำนวนสถานีบริการพีทีเพิ่มขึ้นตามแผน ดังนั้นแผนขยายสถานีบริการนํ้ามันพีทีเพิ่มขึ้นเป็น 4 พันแห่งในอีก 3 ปีข้างหน้า จะส่งผลให้จำนวนสถานีบริการพีทีขึ้นแท่นอับดับ 1 มากกว่าค่ายนํ้ามันรายอื่น” นายรังสรรค์ กล่าว

โดยในปีนี้บริษัทจะใช้เงินลงทุนประมาณ 5 พันล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในการขยายและปรับปรุงธุรกิจหลัก 3.5 พันล้านบาท, ธุรกิจนอนออยล์ 500 ล้านบาท และธุรกิจใหม่อีก 1 พันล้านบาท ซึ่งจะทำให้สามารถขยายสถานีบริการนํ้ามันพีทีแห่งใหม่ได้ 400 แห่งต่อปี ขณะที่การขยายร้านกาแฟพันธุ์ไทยจะเพิ่มเป็น 200 แห่ง ภายในปีนี้ จากปัจจุบันอยู่ที่ 106 แห่ง และจะขยายเป็น 700-800 แห่ง ภายในปี 2562


ส่วนการเข้าซื้อหุ้นบริษัท จีเอฟเอ คอร์ปอเรชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด หรือจีเอฟเอ จะช่วยให้บริษัทสามารถเพิ่มศักยภาพของธุรกิจนอนออยล์ จะสามารถเพิ่มช่องทางการขยายธุรกิจด้านอาหารและเครื่องดื่มในพื้นที่ที่มีศักยภาพนอกสถานีบริการนํ้ามันพีที อาทิ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ คอมมิวนิตีมอลล์ และสนามบินในประเทศไทยและต่างประเทศ เพื่อสร้างสินค้าและบริการที่หลากหลายให้กับลูกค้าปัจจุบัน และขยายฐานลูกค้าใหม่ให้ครอบคลุมมากขึ้น รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการขยายไปสู่ธุรกิจด้านอาหารและเครื่องดื่มในอนาคต นอกจากนี้ยังลดความเสี่ยงของบริษัทในการพึ่งพาธุรกิจนํ้ามันเพียงอย่างเดียว

 

นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้อยู่ที่ 1 แสนล้านบาท จากปริมาณการขายเพิ่มขึ้น 30-40% จากปีก่อนอยู่ที่ 2.9 พันล้านลิตร รวมถึงตั้งเป้าเพิ่มจำนวนสมาชิก PT Max Card เป็น 7.4 ล้านสมาชิก จากปีก่อนอยู่ที่ 5.6 ล้านสมาชิก ทำให้ยอดขายในสถานีบริการนํ้ามันเดิมเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ตั้งเป้าทำกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อม (อีบิตดา) ในปีนี้เติบโตที่ระดับ 50-60% จากปีก่อน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,284 วันที่ 3 -5 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ที่มา : http://www.thansettakij.com


Person read: 2700

04 August 2017