KFC ยืนหนึ่งไก่ทอด 1.4 หมื่นล้าน สปีดโมเดล “24ชม.” เดินเกมยึดพันสาขา

ตลาดไก่ทอดโตไม่หยุด เจ้าตลาด “เคเอฟซี” เร่งงัดกลยุทธ์เมนูใหม่-โปรโมชั่นแรงทุกช่วงเทศกาล พร้อมเดินหน้าขยายสาขา 24 ชั่วโมง เจาะลูกค้าทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ตั้งเป้าขยายไดรฟ์ทรู 100 สาขาทั่วประเทศภายในปี 2563

นางสาวแววคนีย์ อัสโสรัตน์กุล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของแฟรนไชส์เคเอฟซีในประเทศไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปัจจุบันภาพรวมตลาดไก่ทอดมีมูลค่าประมาณ 14,700 ล้านบาท ถือว่าเติบโตขึ้นจากปัจจัยการรับประทานอาหารนอกบ้านของกลุ่มคนรุ่นใหม่และเมนูไก่ทอด เป็นอาหารที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ชื่นชอบ เนื่องจากเป็นเมนูที่รับประทานได้ในทุกโอกาสพิเศษ

โดยที่ผ่านมาเคเอฟซีก็ได้ทำการตลาดอย่างหนักและหลากหลายรูปแบบเพื่อสร้างการรับรู้และแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง

 

ขณะเดียวกันการแข่งขันในตลาดสูงขึ้นเนื่องจากมีทั้งผู้ประกอบการรายเล็ก-รายใหญ่ทยอยเข้ามาทำธุรกิจไก่ทอดอย่างต่อเนื่อง และถึงแม้ว่าเคเอฟซีจะยังเป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่ง 65% แต่ก็ยังไม่หยุดพัฒนาแบรนด์ด้วยการเพิ่มเมนูและโปรโมชั่นใหม่ทุกเทศกาลสำคัญ รวมถึงเร่งพัฒนาช่องทางการขายใหม่ ๆ โดยเฉพาะเรื่องของช่องทางดิจิทัลที่มีทั้งอีคอมเมิร์ซ โมบายแอปพลิเคชั่น เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้สะดวกและรวดเร็ว

สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2562 เคเอฟซีมุ่งขยายร้านเคเอฟซีมากขึ้น โดยแบ่งเป็นร้านรูปแบบปกติ และร้านไดรฟ์ทรู โดยจะเน้นขยายสาขาไปในพื้นที่กรุงเทพฯและต่างจังหวัด ในทำเลที่มีศักยภาพในเรื่องจำนวนประชากร และเป็นย่านที่มีกำลังซื้อ โดยจะชูเรื่องความสะดวกสบายและบริการรวดเร็ว ตลอดจนการพัฒนาช่องทางการส่งดีลิเวอรี่ พัฒนาระบบหลังบ้านให้มีเซอร์วิสที่ดี เพื่อบริการลูกค้าอย่างครอบคลุม

แววคนีย์ย้ำว่า ด้วยการขยายตัวของเมืองทำให้สามารถเปิดร้านได้มากขึ้น โดยเฉพาะในรูปแบบไดรฟ์ทรูในพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งจะตอบสนองความต้องการของคนในละแวกนั้น ๆ และผู้สัญจรไปมา

ซึ่งความสำเร็จของแบรนด์ไม่ได้มาจากการบริหารงานที่ประสบความสำเร็จของยัมฯ แต่มาจากพันธมิตรแฟรนไชส์ทั้งหมด ซึ่งร่วมสร้างนวัตกรรมและทุ่มเททำงานอย่างหนักเพื่อขับเคลื่อนการเติบโต ทำให้ประเทศไทยเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 8 ของโลก และยังเป็นแบรนด์ร้านอาหารที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศไทย

นอกจากนี้ ภาพการปรับตัวของเชนร้านอาหารเริ่มเห็นการปรับรูปแบบการให้บริการในแบบที่เป็นร้านสแตนด์อะโลนมากขึ้น จากการจำกัดระยะเวลาการให้บริการมาสู่รูปแบบของการขยายระยะเวลาการให้บริการเป็น 24 ชั่วโมง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย นอกเหนือจากการได้รับประทานอาหารเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องการสถานที่สำหรับทำกิจกรรมต่าง ๆ มากขึ้น เช่น พบปะพูดคุย โดยคาดว่าสาขาไดรฟ์ทรูของเคเอฟซีจะสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้

สำหรับกลยุทธ์ที่เคเอฟซีให้ความสำคัญ ยังคงเน้นทำความเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภค เพื่อพัฒนาสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์ในราคาที่ตรงใจ ได้แก่ โปรโมชั่นชุดใหญ่มาแรงประจำหน้าร้อน ชุดไก่จัดใหญ่เพียง 199 บาท อิ่มจริงทั้งเซต ไก่ทอด 5 ชิ้น, วิงซ์แซ่บ 3 ชิ้น, นักเก็ต 3 ชิ้น ถึงแค่ 1 พ.ค. 62

อีกทั้งหน้าที่สำคัญของยัมฯยังคงให้การสนับสนุนแฟรนไชส์และพันธมิตรในธุรกิจให้สามารถรักษามาตรฐานของแบรนด์ได้อย่างต่อเนื่อง และให้ความสำคัญกับการให้ความรู้สำหรับการขยายธุรกิจและการทำกำไรด้วยรูปแบบกลยุทธ์การทำตลาดเพื่อสนับสนุนให้กับแฟรนไชซี หรือผู้ที่ซื้อแฟรนไชส์ด้วยการสร้างสรรค์นวัตกรรมสินค้าใหม่ โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยในเรื่องการบริการให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค

ปัจจุบันเคเอฟซีจะมีสาขารวมทั้งหมด 726 สาขา โดยในจำนวนนี้เป็นสาขาไดรฟ์ทรู 68 สาขา โดยอยู่ภายใต้การบริหารร้านของพาร์ตเนอร์ ได้แก่ เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (CRG) ประมาณ 269 สาขา คิวเอสอาร์ออฟเอเชีย (QSA) 285 สาขา และเรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเม้นท์ (RD) 172 สาขา ตั้งเป้าขยายสาขาร้านเคเอฟซีให้ครอบคลุมทั่วประเทศมากกว่า 1,000 สาขา แบ่งเป็นรูปแบบไดรฟ์ทรูกว่า 100 สาขาในปี 2563

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.prachachat.net/marketing/news-318033


จำนวนผู้อ่าน: 2786

24 เมษายน 2019