แฟ้มภาพ
ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันอังคารที่ 10 กันยายน 2562 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (10/9) ที่ระดับ 30.695/67 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดในวันจันทร์ (9/9) ที่ระดับ 30.63/65 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ภายหลังจากมีรายงานว่า จีนได้ยื่นข้อเสนอที่จะซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐเพิ่มขึ้น หากสหรัฐยอมผ่อนคลายข้อจำกัดต่อการส่งออกสินค้าของบริษัทหัวเว่ยและเลื่อนการเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2.5 แสนล้านดอลลาร์ในวันที่ 1 ต.ค. ทั้งนี้ จีนยื่นข้อเสนอดังกล่าวในการสนทนาทางโทรศัพท์กับเจ้าหน้าที่การค้าของสหรัฐในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพิจารณาเลื่อนการเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนที่มีกำหนดในวันที่ 15 ธ.ค. ซึ่งรวมถึงคอมพิวเตอร์แล็ปท็อป สมาร์ทโฟน และสินค้าอุปโภคบริโภคอื่น ๆ นอกจากนี้นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐกล่าววา สหรัฐและจีนมีความคิดเห็นร่วมกันเกี่ยวกับการบังคับใช้กลไกในการป้องกันการขโมยทรัพย์สินทางปัญญา หลังจากที่ผ่านมา ประเด็นดังกล่าวได้เป็นอุปสรรคสำคัญต่อากรบรรลุข้อตกลงทางการค้าระหว่าทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 30.62-30.66 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 30.62/30.63 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรในวันนี้ (10/9) ค่าเงินยูโรเปิดตลาดที่ระดับ 1.1040/42 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ทรงตัวจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (9/9) ที่ระดับ 1.1041/43 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร นักลงทุนจัุบตาดูการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 12 ก.ย.นี้ โดยมีการคาดการณ์ว่า ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย และประกาศรื้อฟ้นโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) รอบใหม่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซนที่มีความอ่อนแอ หลังจาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมามีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจการผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีลดลงอย่างไม่คาดคิดในเดือนกรกฎาคม ซึี่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าผู้ผลิตจากประเทศที่มีเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป กำลังดิ้นรนหลังจากเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1035-1.1059 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1041/43 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร
สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนในวันนี้ (10/9) เปิดตลาดที่ระดับ 107.34/35 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (9/9) ที่ระดับ 107.07/08 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ การส่งสัญญาณในเชิงประนีประนอมระหว่างจีน-สหรัฐ ช่วยลดความกังวลของนักลงทุนต่อสภาวะสงครามการค้า ทำให้นักลงทุนเพิ่มการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงและลดการถือครองสกุลเงินเยนลงในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ทั้งนี้ค่าเงิน
เยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 107.22-107.49 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 107.29/30
เยน/ดอลลาร์สหรัฐ
ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน ส.ค. (11/9) สต๊อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือน ก.ค. (11/9) จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ (12/9) อัตรารเงินเฟ้อเดือน ส.ค. (12/9) ยอดค้าส่งเดือน ส.ค. (13/9) ราคานำเข้าและส่งออกเดือน ส.ค. (13/9) ความเชือมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือน ก.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน (13/9) สต๊อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือน ก.ย. (13/9)
สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -2.2/-2.0 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยงภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -0.5/1.0 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.prachachat.net/finance/news-369926
จำนวนผู้อ่าน: 2514
11 กันยายน 2019