นางสาวสมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยภายหลังการประชุม คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (บอร์ด EEC) ซึ่งมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานว่า วันพรุ่งนี้ (1 ต.ค.2562) เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจาณาเห็นชอบและอนุมัติในการดำเนินโครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 (ช่วงที่ 1) มูลค่า 47,900 ล้านบาท ในระยะเวลา 30 ปี
ซึ่งหลังจากที่ ครม.เห็นชอบแล้วนั้น ในเวลา 12.00-13.00 น. จะทำการลงนามในสัญญาการร่วมลงทุนระหว่าง กนอ. และกลุ่มกิจการร่วมค้ากัลฟ์ และพีทีที แทงค์ (บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท พีทีที แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด) ซึ่งจะเป็นโครงการแรกใน EEC Project List 1 ใน 5 โครงการที่ได้ลงนามเป็นโครงการแรก ซึ่งเป็นส่วนสำคัญสำหรับการนำเข้า – ส่งออกขนถ่ายสินค้า และ LNG รองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีในอนาคต
“การลงนามในสัญญาร่วมลงทุนหลัง ครม.อนุมัติ เพื่อจัดพื้นที่ส่งมอบให้กับบริษัทเอกชนเข้าดำเนินการ ออกแบบรายละเอียดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโดยทันที ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะในการพัฒนาแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในปี 2568 และเชื่อว่าจะเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่สามารถสร้างความเชื่อมั่นในด้านการลงทุนทั้งในและต่างชาติได้อย่างแน่นอน”
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ. หรือเลขาฯ EEC) กล่าวว่า ที่ประชุมบอร์ดได้พิจารณา 1.เห็นชอบ ระบบการใช้บริการเบ็ดเสร็จ EEC – OSS โดย สกพอ.ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางบริการรับคำขออนุมัติ อนุญาต และประสานหน่วยงานเจ้าของกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้ง 8 ฉบับ 2.เห็นชอบให้ดำเนินการแนวทางการพัฒนาบุคลากรใน EEC
3.รับทราบการแก้ไข (ร่าง) ระเบียบคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ว่าด้วยกองทุนพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. …
4.เห็นชอบ แผนผังการใช้ประโยชน์ที่ดิน และแผนผังการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ.
ขณะที่ความก้าวหน้าโครงการ EEC Project List ทั้ง 4 โครงการนั้น 1.โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 จะเข้า ครม. ในวันที่ 1 ต.ค. 2562 และพร้อมลงนามในสัญญา
2.โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก คณะกรรมการคัดเลือกจะดำเนินการต่อ โดยกำหนดพิจารณาเอกสารทางเทคนิคให้จบภายในวันที่ 9 ต.ค. 2562 และเปิดซองการเงิน เพื่อหาผู้เข้าเจรจาสัญญา ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน ต.ค. 2562
3.โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน รับทราบ การวางกำหนดการส่งมอบที่ดินให้แล้วเสร็จโดยเร็ว คือ ส่งมอบที่ดิน 72% ภายใน 1 ปี หลังลงนามในสัญญาร่วมลงทุน
4.โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ท่าเทียบเรือ F หลังจากศาลปกครองมีมติให้ถอนฟ้องคำสั่งของคณะกรรมการคัดเลือกฯ ที่ให้กิจการร่วมค้าเอ็นซีพี ไม่ผ่านการประเมินในซองที่ 2 ดังนั้นกิจการร่วมค้าเอ็นซีพีจึงกลับเข้าสู่กระบวนการ PPP
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.prachachat.net/economy/news-376331
จำนวนผู้อ่าน: 2681
01 ตุลาคม 2019