ค่าเงินบาท​แข็งค่าที่​ 30.15​ บ./ดอลลาร์​ “กรุงไทย” มองแนวรับระยะ​สั้นที่​ 30.10-15 บาท

ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ หัวหน้า​นักกลยุทธ์ตลาดทุนสายงานธุรกิจตลาดเงินทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า​ ค่า​เงินบาทเปิดเช้านี้​ (6​ ม.ค.)​ แข็งค่าที่ระดับ 30.15 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ​ไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อน กรอบเงินบาทวันนี้ 30.10-30.20 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ​

โดยในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา​ (3​ ม.ค.)​ ตลาดการเงินตอบรับความเสี่ยงการเมืองระหว่างประเทศในตะวันออกกลางอย่างรุนแรง ตลาดทุนเข้าสู่ภาวะปิดรับความเสี่ยง (Risk off) ไม่ว่าจะเป็นผลตอบแทน​พันธบัตร​ (บอนด์ยีลด์)​ สหรัฐอายุ 10 ปี ที่ปรับตัวลง 9bps มาที่ระดับ 1.77% หรือดัชนี S&P500 ที่ปิดร่วงถึง 0.71%

ซึ่ง​ปัญหาการเมืองระหว่างประเทศยังส่งผลต่อทิศทางการลงทุนอื่นๆ ที่หลากหลาย เช่นดัชนีหุ้นยุโรปอย่าง Euro Stoxx 50 ที่ปรับตัวลง 0.52% ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI และราคาทองคำปรับตัวขึ้น 1.25% และ 1.12% ตามลำดับ

ด​ร.จิติพลกล่าว​ว่า​ วันนี้ อาจเห็นตลาดฝั่งเอเชียที่จะเปิดตัวในด้านลบพร้อมกับปริมาณความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่สูงขึ้น​ อย่างไรก็ดี การอ่อนค่าของดอลลาร์ และราคาน้ำมันที่สูงขึ้นยังคงเป็นปัจจัยบวกกับพื้นฐานของ Emerging Markets เช่นกัน จึงเชื่อว่าตลาดน่าจะอยู่ในภาวะเลือกซื้อ (Selective buy) ในสัปดาห์นี้

จุดที่ต้องจับตาเพิ่มเติมคือตัวเลขเศรษฐกิจ เพราะท้ายสัปดาห์ก่อนมีการรายการตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตในสหรัฐ (ISM Manufacturing PMI) ออกมาแย่กว่าคาดที่ระดับ 47.2 จุด ขณะที่ในสัปดาห์นี้ จะมีการรายงานตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อนอกภาคการผลิตในคืนวันอังคาร และตัวเลขตลาดแรงงานในคืนวันศุกร์ ซึ่งถ้าเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวด้วย ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะเห็นนักลงทุนทยอยขายเงินดอลลาร์และสินทรัพย์ฝั่งสหรัฐอีกครั้ง

ส่วนของเงินบาท ในระยะสั้นเชื่อว่ามีแนวรับจิตวิทยาที่ 30.10-15 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดและเป็นระดับปิดสิ้นปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี วันนี้ต้องจับตาทิศทางของค่าเงิน Emerging Markets ไปพร้อมกัน เพราะส่วนใหญ่มักเห็นการอ่อนค่าของสกุลเงินเอเชียในภาวะ Risk Off และถ้าสกุลเงินเพื่อนบ้านถูกขาย ก็เชื่อว่าจะมีความพยายามขายเงินบาทและสินทรัพย์เสี่ยงในไทยตามมาด้วยเช่นกัน 

กรอบเงินบาทสัปดาห์นี้  30.00-30.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ​

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.prachachat.net/finance/news-407851


Person read: 1928

06 January 2020