“เมกาบางนา” ลุยครึ่งปีหลัง รีโนเวต-อัดโปรฯ ปลุกยอด

กระตุ้นยอด - เมกาบางนา จับมือไลน์แมน จัดแคมเปญโปรโมชั่นสำหรับบริการสั่งอาหาร เพื่อขยายช่องทางการขายให้กับร้านค้าผู้เช่า

“เมกาบางนา” รีวิวแผนครึ่งปีหลัง หลังห้างเซ็นทรัลช่วยต่อยอดธุรกิจ เดินหน้าเน้นกลยุทธ์ “มีตติ้งเพลซ” รีโนเวตศูนย์ เพิ่มแบรนด์ไทย-เทศอัดแคมเปญกระตุ้นจับจ่าย ก่อนทุ่มงบฯ1 พันล้าน สร้างอาคารจอดรถ-ฟู้ดวอล์กเข้มงวดมาตรการความปลอดภัย ก่อนประเมินเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวหลังธุรกิจปรับตัวรับมือสร้างการเติบโตระยะยาว

นางสาวปพิตชญา สุวรรณดี กรรมการผู้จัดการ ศูนย์การค้าเมกาบางนา เปิดเผยว่าวิกฤตไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะค่อย ๆ ฟื้นตัว และภาคธุรกิจจะเริ่มปรับตัวรับเทรนด์ใหม่ที่เกิดขึ้น โดยหลังจากที่เมกาบางนาได้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งตามนโยบายผ่อนคลายล็อกดาวน์ของภาครัฐ และได้ดำเนินการตามมาตรการด้านสุขอนามัย เน้นความสะอาด ปลอดภัย และความสะดวก ตามแบบวิถีนิวนอร์มอลซึ่งได้รับความร่วมมือจากร้านค้าผู้เช่าเป็นอย่างดี

สำหรับแผนการดำเนินงานครึ่งปีหลังนี้เมกาบางนาได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินงานในด้านต่าง ๆ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า ภายใต้แนวคิด “มีตติ้งเพลซ” ของคนในกรุงเทพฯตะวันออก ที่เป็นมากกว่าสถานที่ช็อปปิ้ง แต่เป็นสถานที่พบปะของครอบครัวและเพื่อน โดยหลัก ๆ จะเน้น 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1.การปรับเปลี่ยนร้านค้า และบริการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ใหม่ ๆ 2.เพิ่มพื้นที่จอดรถและปรับปรุงภูมิทัศน์ของศูนย์การค้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า และ 3.ส่งแคมเปญการตลาดต่าง ๆ ช่วยกระตุ้นในการจับจ่ายใช้สอย

นอกจากนี้ยังได้ปรับเปลี่ยนร้านค้าภายในศูนย์ ที่เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่สำคัญในการยึดครองใจลูกค้า (top of mind) เริ่มต้นจากชูแม็กเนตใหม่ห้างเซ็นทรัลที่เมกาบางนา ที่ได้ยกระดับจากเดิมที่เป็นห้างโรบินสัน มีจำนวน 3 ชั้น รวมพื้นที่ใช้สอยกว่า13,000 ตร.ม. มีสินค้าทั้งแบรนด์ไทย-แบรนด์อินเตอร์, แบรนด์ Only@Centralรวมถึงแบรนด์ใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมประมาณ 400 แบรนด์ ที่จะทยอยเข้ามารวมกว่า 1,000 แบรนด์ ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มคนวัยทำงาน ซึ่งการเปิดให้บริการเริ่มตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นเพียงเฟสแรก ก่อนจะทยอยปรับโฉมต่อเนื่องอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมเตรียมขยายพื้นที่สาขาร่วมกับศูนย์การค้าเมกาบางนาอีกครั้งในปี 2565

อีกทั้งยังทุ่มงบฯ 1 พันล้านบาท เพื่อใช้ในการก่อสร้างอาคารจอดรถจำนวน 8 ชั้น เพิ่มที่จอดรถมากกว่า 2,000 คัน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในต้นปี2564 และจะทำให้ศูนย์มีที่จอดรถรวมกว่า 12,000 คัน ควบคู่กับการปรับภูมิทัศน์ด้านนอกของโซนเมกา ฟู้ดวอล์ก ภายใต้คอนเซ็ปต์ ScandinavianPlayground สนามเด็กเล่นธรรมชาติขนาดใหญ่ พร้อมสายน้ำ และบ่อทราย(sand dune) ขณะนี้ดำเนินการแล้วเสร็จไปมากกว่า 50% โดยมีกำหนดเปิดอย่างเต็มรูปแบบภายในเดือนกันยายนนี้

พร้อมกันนี้ยังได้เตรียมกิจกรรมส่งเสริมการขายผ่านทางช่องทางต่าง ๆและมอบสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้าเพื่อช่วยกระตุ้นยอดขายให้กับร้านค้า ตลอดจนการจับมือกับแพลตฟอร์มต่าง ๆอาทิ ไลน์แมน จัดแคมเปญโปรโมชั่นสำหรับบริการสั่งอาหาร และยังเป็นแนวทางการขยายช่องทางการขายให้กับร้านค้าผู้เช่าในกลุ่มร้านอาหารได้อีกด้วย

“อย่างไรก็ตาม การปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจและการตลาดที่ตอบโจทย์ลูกค้า จะต้องสอดคล้องกับภาพรวมของเศรษฐกิจของประเทศไทย และหากสถานการณ์โควิด-19 ในไทยมีแนวโน้มในทิศทางที่ดี ก็เชื่อมั่นว่าศูนย์การค้าจะช่วยดึงลูกค้าใหม่ให้มาใช้บริการ และจะยังกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชน ช่วยให้เกิดการหมุนเวียนของเศรษฐกิจภายในประเทศ บวกกับในปีที่ผ่านมานั้น ศูนย์การค้าเมกาบางนามีลูกค้าเข้ามาใช้บริการกว่า 50 ล้านคนและเป็นกลุ่มที่มีกำลังการซื้อสูง ซึ่งเป็นฐานลูกค้าที่มีศักยภาพ”นางสาวปพิตชญากล่าวเสริม

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.prachachat.net/marketing/news-488355


จำนวนผู้อ่าน: 1688

09 กรกฎาคม 2020