เปิด 5 ธุรกิจดาวรุ่งในปี 2560 "อีคอมเมิร์ซ" บูม "รถยนต์" ฟื้น "ท่องเที่ยว-ส่งออก" ทุบสถิติ
ในรอบปี 2560 หลายธุรกิจเผชิญอยู่ในอาการล้มลุกคลุกคลาน ทว่ายังมีหลากหลายธุรกิจเติบโตดี กองบรรณาธิการ “กรุงเทพธุรกิจ” สรุป 5 ธุรกิจดาวรุ่ง พบว่าส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่โหนกระแสเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวและเทรนด์เทคโนโลยีที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงธุรกิจ มีดังนี้
เศรษฐกิจโลกฟื้นดัน "ส่งออก" ทุบสถิติ
หลังส่งออกไทยดำดิ่งมาตั้งแต่ปี 2556-2559 โดยปี 2556 ติดลบ 0.26% ปี 2557 ติดลบ 0.45% ปี 2558 ติดลบหนักสุด 5.78% จนมากระเตื้องในปี 2559 กลับมายืนบวกที่ 0.50% มาถึงปี 2560 อานิสงส์เศรษฐกิจโลกฟื้นตัว เป็นปัจจัยหลัก ที่ทำให้การส่งออก “พลิกฟื้น”กลับมาเหนือความคาดหมาย
ล่าสุดตัวส่งออกเดือนพ.ย.2560 เติบโต 13.4% ถือเป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 58 เดือน ยังทำให้ตัวเลขส่งออกในช่วง 11 เดือน (ม.ค.-พ.ย.2560) ขยายตัวถึง 10% ทำให้กระทรวงพาณิชย์ มั่นใจว่าจะผลักดันการเติบโตการส่งออกทั้งปี2560 ขยายตัวสูงถึง 10% มูลค่า 235,000 ล้านดอลลาร์สูงสุดในรอบ 6 ปี ยังคงเป็นรายได้หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
โดยสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม ส่งออกดีเกือบทุกรายการสินค้า ยังเป็นที่น่าสังเกตว่ากลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมที่ขยายตัวดี ส่วนใหญ่เป็นไปตาม “เทรนด์โลก” เริ่มขยับไปสู่กลุ่มเทคโนโลยีชั้นสูง โดยเฉพาะกลุ่มคอมพิวเตอร์ ชิ้นส่วนประกอบ มือถือ อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต (IoT-Internet of Things) ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากนโยบายรัฐบาลสนับสนุนให้เกิดการลงทุนการส่งออกไปสู่เทคโนโลยีอุตสาหกรรมชั้นสูง เพื่อยกระดับไทยไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 มุ่งไปที่อุตสาหกรรมใหม่ (New S-Curve)
"ธุรกิจสูงวัย" โตทุกเซ็กเมนท์
ธุรกิจเกี่ยวกับผู้สูงอายุ เป็นอีกหนึ่งเซ็กเมนท์ที่เคลื่อนไหวมากในรอบปีที่ผ่านมา ผลพวงจากภาคธุรกิจตระหนักถึงการก้าวสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ที่จะมาถึงในปี 2564 ของประเทศไทย จึงปรับทิศทางการลงทุนเพื่อเตรียมรับฐานลูกค้ากลุ่มใหม่
ปี2560 ธุรกิจที่เคลื่อนไหวลงทุนชัดเจนมากสุดคือ อสังหาริมทรัพย์ ที่หลายค่ายต่างพัฒนาแบบโครงการโดยเสริมให้มีห้องนอนชั้นล่างสำหรับผู้สูงอายุ พร้อมด้วยฟังก์ชันพิเศษ เช่น การทำราวจับ พื้นไม่ลื่น ฝักบัวปรับเลื่อนระดับได้ นอกจากนี้ ยังมีโครงการรูปแบบคอนโดมิเนียม ที่จัดเตรียมบริการทางการแพทย์ครบวงจร พร้อมบริการผู้ช่วยส่วนบุคคลตลอด 24 ชั่วโมง
เช่นเดียวกับ ธุรกิจเนิร์สซิ่งโฮม หรือศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่ขยายตัวเป็นดอกเห็ด ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุในช่วงต้นปี-กลางปี 2560 มีผู้ประกอบการยื่นจดทะเบียนเพื่อประกอบกิจการเนิร์สเซอรี่ และบริษัทรับจัดหาพนักงานดูแลผู้สูงอายุ มากกว่า 50 ราย ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ นนทบุรี และปทุมธานี และเป็นที่น่าสังเกตว่าในต่างจังหวัดโดยเฉพาะหัวเมืองใหญ่ ก็มีเนิร์สเซอรี่ทยอยเกิดขึ้นเป็นระยะๆ
ยุคทอง "อีคอมเมิร์ซ"
ปี 2560 นับเป็นปีที่อีคอมเมิร์ซประเทศไทยขยายตัวอย่างก้าวกระโดด จากทั้งการโหมตลาดอย่างต่อเนื่องของ “อาลีบาบา” โดย “ลาซาด้า” ท้าชนด้วยยักษ์ใหญ่จากเกาหลีไต้ “อีเลฟเว่นสตรีท”การเข้ามาประกาศปักธงไทยอย่างเป็นทางการของ “เจดีดอทคอม” ขณะเดียวกันมีผู้เล่นอีกหลายรายหวังเข้ามาชิงเค้กไม่ว่าจะเป็นยักษ์อินเทอร์เน็ตไต้หวัน “ช้อปปี้” ในเครือการีนา (ซี) แบรนด์ดอทคอม รายย่อยหารายได้เสริมเป็นอาชีพที่ 2 รวมถึงการมาของโมเดลแบบออนไลน์ทูออฟไลน์(โอทูโอ)
ไพรซ์ซ่าผู้ให้บริการเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นเปรียบเทียบราคาสินค้าออนไลน์ชั้นนำ ประเมินไว้ว่าอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซประเทศไทยมีศักยภาพเติบโตได้สูงมากต่อปี 20-30% ขณะเดียวกันสัดส่วนบนออนไลน์ยังน้อยมากแค่ 1% ของภาพรวมค้าปลีกดังนั้นโอกาสยังรออยู่อีกมหาศาล
ปัจจุบันมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตอยู่เป็นประจำราว 38 ล้านคน นักช้อปออนไลน์ 12.1 ล้านคน หรือคิดเป็น 32% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต คาดว่าปี 2561 จำนวนนักช้อปจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก จากปัจจัยบวกทั้งการสนับสนุนภาครัฐผ่านนโยบายไทยแลนด์ 4.0 การพัฒนาอีเพย์เมนท์ การมาของฟินเทค ตลอดจนการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ในแวดวงโลจิสติกส์
ท่องเที่ยวสร้างสถิติ "นิวไฮ"
ในปี 2560 เป็นปีที่ไทยสร้างสถิตินักท่องเที่ยวสูงสุดได้อีกครั้งด้วยจำนวนเกิน 35 ล้านคน ตอกย้ำการเป็นจุดหมายยอดนิยมของตลาดต่างประเทศ ก่อนจะก้าวสู่เป้าหมายใหม่ปี 2561 ที่ตั้งรายได้ไว้สูงถึง 3.03 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10% ระหว่างที่ประกาศให้เป็น “ปีแห่งการท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋อย่างยั่งยืน” ซึ่งเปิดตัวไปตั้งแต่เดือน พ.ย.2560
ด้านธุรกิจโรงแรมตลอดปี 2560 สมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) รายงานอัตราเข้าพักเฉลี่ยโรงแรมทั่วประเทศของไทย อยู่ที่ 75% เพิ่มขึ้น 5-7% เมื่อเทียบกับปี 2559 โดยจังหวัดที่เติบโตสดใส ได้แก่ ภูเก็ต มีอัตราเข้าพักเฉลี่ยสูงถึง 80-85% ตามด้วยกรุงเทพฯ 70-75% และเชียงใหม่ราว 75% ส่วนพัทยา ที่เคยได้รับผลกระทบจากทัวร์จีนและรัสเซียที่ลดลงในปี 2559 ก็เริ่มฟื้นตัวขึ้นแล้ว จนมีอัตราเข้าพักเฉลี่ยราว 68-70% ตามลำดับ
โดยภาพรวมยกให้การขยายตัวของ “สายการบินต้นทุนต่ำ” มีบทบาทในการช่วยนำตลาดต่างประเทศมาไทยเพิ่ม ทั้งการขยายเส้นทางและเพิ่มความถี่ ระหว่างเมืองหลักกับเมืองหลัก, เมืองหลักถึงเมืองรอง และเมืองรองถึงเมือรองด้วยกัน
"รถยนต์" โตครั้งแรกรอบ 5 ปี
ตลาดรถยนต์ไทยเคยทำสถิติยอดขายสฺูงสุดเป็นประวัติการณ์ 1.43 ล้านคัน ในปี 2555 และเป็นยอดขายที่เกิน 1 ล้านคัน เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นผลมาจากโครงการรถคันแรกของรัฐบาลในช่วงนั้นที่ส่งผลให้เกิดการเร่งซื้อของผู้บริโภคที่ต้องการใช้สิทธิลดหย่อนภาษี โดยเฉพาะในเดือน ธ.ค.ที่จะสิ้นสุดโครงการ มียอดขายถึง 1.4 แสนคัน แต่การเร่งซื้อก่อให้เกิดปัญหาตามมาหลายอย่าง และมีผลทำให้หลังจากนั้นตลาดรถยนต์ติดลบมาโดยตลอด 4 ปี โดยในปี 2559 ม่ียอดขายรวม 7.68 แสนคัน
เมื่อเข้าสู่ปี 2560 ตลาดเริ่มปรับตัวดีขึ้นยอดขายรายเดือนเทียบกับกับเดือนเดียวกันปีก่อนหน้าดีขึ้นตลอดตั้งแต่เดือน ม.ค. และเดือน พ.ย.2560 มียอดขาย 7.8 หมื่นคัน เพิ่มขึ้น 20.6% จากเดือน พ.ย.ปีก่อนหน้า และทำให้ยอดรวม 11 เดือนปีก่อนอยู่ที่ 7.67 แสนคัน เพิ่มขึ้น 12.5% เป็นผลมาจากหลายปัจจัยบวก ทั้งทิศทางของภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มพื้นตัว การกระตุ้นเศรษฐกิจและลงทุนภาครัฐ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้น การที่ค่ายรถเปิดตัวรถรุ่นใหม่จำนวนมาก และได้รับการตอบรับจากตลาดด้วยดี และยังมีกิจกรรมส่งเสริมการขายของค่ายรถต่างๆ มากระตุ้นอีกทางหนึ่งด้วย
ส่วนเดือน ธ.ค.2560 ประเมินว่า ยังคงได้รับแรงหนุนจากปัจจัยบวก และมียอดจองจากงานมหกรรมยานยนต์เข้ามาเสริม อีกทั้งตามสถิติแล้วพบว่า เป็นเดือนที่มียอดขายสูงสุดของปี จะทำให้ยอดขายยังเติบโตต่อไป คาดว่าจะทำให้ปี 2560 เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 8.4-8.7 แสนคัน
ขอบคุณที่มาข่าวจาก : bangkokbiznews.com
จำนวนผู้อ่าน: 2186
04 มกราคม 2018