ครม.เคาะแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ลอตสองอีก 1.5 แสนล้าน

ครม. ปั๊มหัวใจเศรษฐกิจ ภายใต้พ.ร.ก.ฟื้นฟู 4 แสนล้าน รอบที่สอง กว่า 152,000 ล้านบาท 4 กลุ่มแผนงาน คาด GDPขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 ในปี 2563 และร้อยละ 0.25 ในปี 2564

เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติรับทราบกรอบแนวคิดการจัดทำแผนงานหรือโครงการภายใต้แผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมฯ ตามบัญชีท้ายพระราชกำหนดฯ รอบที่ 2 วงเงิน 152,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 4 กลุ่มแผนงาน/โครงการหลัก ได้แก่

1.กลุ่มแผนงานโครงการส่งเสริมการจ้างงานและพัฒนาทักษะอาชีพเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและวางรากฐานการพัฒนาในระยะต่อไป อาทิ โครงการส่งเสริมการจ้างงานใหม่สำหรับผู้จบการศึกษาใหม่โดยภาครัฐและเอกชน ของกระทรวงแรงงาน (19,462.0019 ล้านบาท) และกลุ่มโครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะอาชีพ (Upskill-Reskill-New skill)]

2.กลุ่มแผนงาน/โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชนบนพื้นฐานของโอกาสและศักยภาพของท้องถิ่น ตัวอย่างเช่น โครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก (45,000 ล้านบาท)]

3.กลุ่มแผนงาน/โครงการส่งเสริมและกระตุ้นการบริโภคเพื่อฟื้นฟูตลาดและเศรษฐกิจทุกระดับ เช่น โครงการคนละครึ่ง (30,000 ล้านบาท) และ 4. กลุ่มแผนงาน/โครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการฟื้นตัวและพัฒนากิจกรรมทางเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มโครงการเพื่อพัฒนาและบริการจัดการทรัพยากรน้ำ

ประเมินเบื้องต้นคาดว่าจะช่วยสนับสนุน GDP ของประเทศไทยให้ขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 0.2 ในปี 2563 และร้อยละ 0.25 ในปี 2564 ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ได้แก่ การรักษาการจ้างงานและจ้างงานใหม่ รวมกว่า 310,000 ราย ยกระดับทักษะแรงงานอาชีพเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและวางรากฐานการพัฒนาในระยะต่อไปได้กว่า 160,000 ราย

เกษตรกรและผู้ประกอบการในระดับชุมชนทั้งภาคการผลิตและบริการทั้ง 76 จังหวัด ได้รับการยกระดับประสิทธิภาพกระบวนการผลิต/บริการ ช่วยฟื้นฟูธุรกิจให้พร้อมรับกับสถานการณ์ที่จะเปลี่ยนไปภายหลังวิกฤติโควิด ประชาชนจำนวน 10 ล้านคน ลดภาระค่าใช้จ่าย และสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการรายย่อยจำนวนอย่างน้อย 100,000 ร้านค้า เพิ่มเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 60,000 ล้านบาท และพื้นที่ทำการเกษตร 96.4 ล้านไร่ จะมีการเก็บกักน้ำได้มากขึ้นด้วยการบริหารจัดการระบบน้ำชุมชน

ทั้งนี้จะเป็นการพิจารณาแผนงาน/โครงการ ต่อเนื่องจากกรอบที่ 1 ที่ได้รับการอนุมัติไปแล้ว วงเงิน 92,400 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูกิจกรรมทางเศรษฐกิจและกระตุ้นการบริโภคภาคครัวเรือนและเอกชน ภายใต้มาตรการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังมีคงอยู่ในอีกช่วงระยะหนึ่งและยังคงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.prachachat.net/politics/news-560947


จำนวนผู้อ่าน: 1689

24 พฤศจิกายน 2020